ดองเปรี้ยวดองเค็มตั้งแต่ต้นปี วันนี้ในที่สุดเราก็ได้ลงบทความแนะนำ 1 ในสายการเล่นพรีสที่เราชอบซะที
Priest -Magnus Exorcismus-
Ragnarok M: Eternal Love
เนื่องจากเราเล่น
พรีสสายแมกนัส มาจากเวอร์ชัน
PC และเราคิดว่าหลายท่านคงได้ชมวิธีเล่นจากหลายสำนักไปแล้ว ครั้งนี้เราเลยจะมาแชร์ประสบการณ์ของเราเอง เพราะพรีสสายนี้มันซึมซับเข้าเส้นเลือดสมองเราไปแล้ว ถ้ามี RO เวอร์ชั่นใหม่ออกมา เราก็ว่าเราคงเล่นอาชีพเดิมสายเดิมนี่แหละ ในที่นี้เราจะแนะนำวิธีการเล่นตามประสบการณ์ตั้งแต่เปลี่ยนคลาส 1 เลยนะ
*Update การอัพส่วนของคลาส 3 และ 4 ในบางส่วนนะจ๊ะ
อโคไลท์ตัวน้อยยิงมอนปิ้วๆ
เนื่องจากอาชีพแต่ละอาชีพใน RO M เวลง่ายมากๆๆๆ ไม่ต้องตีมอนส์เตอร์เยอะ แค่ไปรับเควสและส่งเควสตามที่ต่างๆในอาณาจักรเราก็ได้ค่า exp มหาศาล ในฐานะ
Acolyte สาย Int เราสามารถใช้
Holy Light Strike ในการยิงมอนส์เตอร์ส่งเควสได้ เนื่องจากสกิลนี้เมื่ออัพเต็มดาเมจจะรุนแรงมาก เรียกได้ว่าไม่ต้องพึ่งการดูดเลยก็ได้ (แต่ถ้าอยากไวก็ไปหาตี้เถอะลูก) ตอนเราเล่นช่วงแรกของการเปิดเซิฟเราแชร์ตี้เอาเนื่องจากคนเยอะมากและหาปาร์ตี้ง่ายกว่าตอนนี้ เราเล่นแค่คืนเดียวเราก็เปลี่ยนพรีสเลย ส่วนสเตตัส เราอัด
Int ไปเต็มแมกไม่แตะสเตตัสอื่นเลยเพื่อเราจะได้เก็บจ๊อบง่ายๆหลังเปลี่ยนพรีส
ชีวิตหลังเปลี่ยนพรีส
เรายังใช้
Holy Light Strike ยิงมอนอยู่ยันเราอัพ
Turn Undead เพื่อเป็นทางผ่านแมกนัส สกิลนี้มีความสำคัญมากที่ยังไงก็ต้องอัพไม่ว่าจะสายไหน เนื่องจากสามารถเอาไปหาเงินได้หรือแก้ขัดระหว่างที่หาปาร์ตี้ไม่ได้ เนื่องจากศัตรูเลเวลสูงๆที่เราไปเก็บได้ยาวๆ คือ
Evil Druid, Dark Priest, Wraith ที่กลาสเฮล์ม รวมถึง
Black Witch ที่อยู่ในหอนาฬิกาชั้นแรกด้วย เราสามารถใช้
Turn Undead หากินไปได้จนได้แมกนัสเลเวล 10 เลยล่ะ (แถมเทิร์นติดง่ายด้วย เลเวล 5)
****พูดถึง Turn Undead แปป สกิลนี้มีคนแนะนำให้อัพจนถึง 20 เลย เนื่องจากเลเวลสูงๆของสกิลนี้จะส่งผลความแรงต่อ Magnus ด้วยล่ะ.... (ไม่เหมือนกับ PC ที่สกิลนี้ถ้าไม่ได้เล่นสายเทิร์นก็ทิ้งๆไปเตอะ....)
ก้าวเข้าสู่พรีสสายแมกนัสอีกขั้น
หลังจากได้แมกนัสมาแล้วเราก็ร้อนวิชา เราพยายามไปหาที่แมกนัสยาวๆ แต่เนื่องจาก เราร่ายช้ามาก แถมดาเมจก็ยังไม่ถึงฆ่ามอนตายในแมกเดียว เราก็เลยพยายามเก็บตัง แล้วไปซื้อ
Orlean’s Gown มา เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาขัดจังหวะการร่าย แล้วก็ไปที่ดันเมืองพายอน ที่มี Munak กับ Bongun ตอนแรกเราพยายามแมก Bongun ด้วย แต่ผลคือ โดน Stun จากมันรัวๆ โดยเราไม่สามารถฆ่ามันให้ตายภายในแมกเดียวได้ด้วย เราก็เลยเลิกล้มความตั้งใจ สิ่งเดียวที่เลือกได้ คือหากลุ่ม Munak ที่ยืนอยู่ 3 ตัวและเกิดเรื่อยๆ เราสามารถเก็บเลเวลได้จากการแมกนัส Munak ส่วนเควสบอร์ดที่ต้องทำทุกวัน เราก็ใช้
Holy Light Strike ทำภารกิจไปเรื่อยๆ พอแมกนัสเราเริ่มแรงขึ้นแล้ว (สังเกตว่า Munak จะตายภายในแมกครั้งที่ 2) เราก็สังเกตว่า เห้ย ทำไมเวลมันขึ้นช้าจัง....เราก็เลยลองเปลี่ยนที่......
คลำทางแมกนัสไปเรื่อยๆกับ Sohee
หลังจากเราลองเปลี่ยนที่ เราไปลองวิชาแมกนัสที่ถ้ำพาย่อนชั้น 2 โดยเป้าหมายของเราคือ
Sohee มอนส์เตอร์ที่ชอบฆ่าตัวตายทั้งๆที่เรายังไม่ได้ทำอะไรกับมัน ขั้นแรกเราไปยืนอยู่ที่ NPC ผู้หญิงที่ยืนฮีลให้คนที่เข้าไปใกล้ๆ และกางแมกนัสให้โดน Sohee 1 ตัว หลังจากนั้นเราก็ Holy light ใส่ Sohee อีกตัว ให้วิ่งเข้ามาในวงแมกนัสเอง ซึ่งตอนนั้นเองที่ทำให้เรารู้ว่าวิธีการเล่นพรีสสายแมกนัสระหว่าง PC กับ M มันต่างกันโดนสิ้นเชิง เพราะมอนส์เตอร์ใน M ลากยากมาก ถ้ามันวิ่งตามเรานานๆแล้วมันจะเลิกตามทันที (ไม่นับมอนส์เตอร์ดาว มันคือวิญญาณแค้นชัดๆ) แตกต่างกับ PC ที่หากไม่อยู่ห่างจากมันมากๆ มันก็ยังไล่ตามเราอยู่ ลากง่ายกว่า M เป็นไหนๆ ซึ่งหากเราคิดจะเล่นแมกนัสตั้งแต่ยังไม่เป็น
High Priest ความอดทนเท่านั้นที่จะชนะทุกอย่างจริงๆ ทั้งทนเก็บเงินเพื่อซื้อบลูเจม ซื้อปั้ม และอื่นๆ เรียกว่าใช้เงินวันต่อวันเลยทีเดียว แต่ถ้าวันไหนเราไม่มีเงินซื้อบลูเจมจริงๆ
Turn Undead เลเวล 5 นี่แหละ ทางหากินที่ได้ประสิทธิภาพของเรา.....
เปลี่ยนไฮพรีสกันต่อ
หลังจากจ๊อบ 40 แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปเปลี่ยนไฮพรีสทันที ชีวิตหลังเปลี่ยนไฮพรีสดีขึ้นนิดหน่อย เรารีสกิลเอา Holy Light Strike ออก เพื่อเอา
Judex มาเก็บเลเวล (บอร์ดภารกิจ) แทน ครั้งนี้เรามีทุนจากการเก็บเงิน เก็บเลเวล มาอัพเกรด Holy Stick มาเป็น
Nemesis ซึ่งเป็นคทาลดระยะร่ายของแมกนัสและเทิร์น รวมถึงจะ Judex แรงขึ้นตามค่า Luk ด้วย หลังจากเปลี่ยนไฮพรีส เราอาจจะเก็บ Sohee ไม่ค่อยขึ้นแล้ว (สังเกตง่ายๆ เลเวลเราจะมากกว่า Sohee 10 เลเวล) ทางเดียวสำหรับสาย Magnus ของเรา ก็คือ Glast Hiem Churchyard ที่เลือกที่นี่ก็เพราะว่า มอนส์เตอร์ทุกตัว โดน Magnus หมด แล้วเรายืนยันนอนยัน นั่งยันเลยว่าที่แมพนี้เราสามารถเก็บไปอีกยาวๆยันแสงออกเท้าได้เลย.... (รวยด้วย ของดรอปราคาดี การันตีโดยอาชีพคลาสสามที่ยังมาตามเก็บมอนพวกนี้อยู่) ถ้าแมกยังไม่แรง ร่ายยังไม่เร็ว เราไม่แนะนำชั้น 2 นะ ให้อยู่ชั้น 1 ไปก่อนจนเริ่มเข้าที่ละแล้วค่อยไปสดชั้น 2 ค่ะ (เลเวลก็น่าจะประมาณ 78+ แล้วล่ะตอนนั้น)
หลังจากนี้จะเป็นการแนะนำแบบครอบจักรวาลในส่วนของการเก็บเลเวลเพื่อรอเวลาเปลี่ยนคลาสสามนะจ๊ะ......
แมกที่ไหนดี ?
อันนี้เราอาจจะพูดไปแล้ว แต่เราจะลิสต์จุดเก็บเลเวลของพรีสสายแมกนัสให้ แต่อาจจะไม่ได้เรียงนะว่าเลเวลไหนต้องไปไหนบ้าง เพราะบางคนก็อาจจะพอใจกับจุดเก็บเวลอื่น แม้ว่ามอนจะเลเวลน้อยกว่าเยอะก็ตาม
Ghost Ship - Skeleton, Pirate Skeleton, Whisper รวมถึงตัวอื่นๆในดัน ใช้ Holy Light ยิงได้หมด
Payon Dungeon ชั้น 1 - Munak และ Bongun (ระวังถูก Bongun สตั๊นท์ เดินไม่ออก ปั้มไม่ได้ ร่ายเวทไม่ได้นะจ๊ะ) ใช้ Turn Undead, Holy Light หรือ Magnus ยิงก็ได้
Payon Dungeon ชั้น 2 - Bongun, Sohee ระวังโซฮีฆ่าตัวตาย (แนะนำให้มาก่อนเปลี่ยนไฮพรีส)
Glast Heim - Incubus, Succubus โปรดระวังลูกน้อง และ Abysmal Knight (จริงๆแล้วถ้าเจอมันก็เอา Holy Light ยิงใส่มันรัวๆเลยก็ได้)
Glast Heim Churchyard ชั้น 1-2 - ยิงได้ทุกตัว ระวังมินิบอส Dark Illusion
Glast Heim Culvert - Injustice เท่านั้น (ต้องอัพรูนยิงโดนทุกตัวมาด้วยนะ)
Glast Heim Chivalry - Raydric Archer (อันนี้ ให้เอา Justice ยิงดีกว่า แมกไปไม่คุ้มเพราะมันอยู่กระจัดกระจายมาก)
Glast Heim Hall/Wing - ใช้ Magnus ยิงได้แค่ Baphomet Jr. กับ Wanderer ที่เหลือต้องใช้ Justice ยิง
Al de Baran's Clock Tower - ใช้ Turn Undead ยิง Black Witch
Toy Factory - Zipper Bear เท่านั้น (ต้องอัพรูนยิงโดนทุกตัวมาด้วยนะ)
Border Checkpoint - Harpy ให้มาตอนใกล้เปลี่ยนคลาสสาม
Einborch Field - Harpy (ในกรณี Border Checkpoint คนเยอะ)
Magma Dungeon - Firey Deviruchi, Firey Mane
Misty Forest - ยิง Magnus ได้ทุกตัว ยกเว้น Tomb Zombie
Holy Ground Underground - Hodremlin เท่านั้น แต่โอกาสโดนมอนตัวอื่นสูง แนะนำให้สนใจแต่ Hodremlin เท่านั้น เพราะว่าตัวอื่นถ้าเราไม่ตีมันตอบมันจะหลุดโฟกัสเราไปเอง
เควสต์เจ้าปัญหา
คราวนี้พูดถึงภารกิจกันบ้าง ในเกม RO ภารกิจจะเยอะมาก บางทีก็รีเควสให้เราไปยิงมอนส์เตอร์ที่ไม่แพ้ Magnus หรือ Judex (ยิงเข้าเบาหวิวนั่นเอง) คราวนี้หากเป็นภารกิจบอร์ด เราแนะนำให้ใช้ ข้าวปั้น (Adventure Meatball) แลก สกอร์มิชชั่น (Mercenary Mission) แล้วสำเร็จภารกิจทันทีโดยที่เราไม่ต้องเดินทางไปทำให้เสียเวลา แต่หากคิดว่าจะเก็บข้าวปั้นไปทำอย่างอื่น ทางที่ดีที่สุดคือ ไปใช้ Judex ยิงแจมเขา ก็สามารถเก็บของ + ได้จำนวนมอนส์เตอร์ตามที่ภารกิจต้องการก็ได้เช่นกัน (แต่ต้องแน่ใจว่าคนที่ยิงแจมเป็นบอทนะ ถ้าเป็นคนเล่นเองก็เตรียมพร้อมโดนซิบด่า 5555+) ทั้งนี้ เราแนะนำให้อัพ Judex ถึงแค่เลเวล 1 พอ ยิ่งเลเวลเยอะ Judex ยิ่งร่ายช้า และเราต้องเอาแต้มสกิลไปอัพสกิลอื่นที่เป็นประโยชน์ในการ Magnus ของเราด้วย (อัพ Gloria ด้วยก็จะยิงเข้าเพิ่มอีกนิด....) ถ้าเป็นภารกิจเล็กน้อย ยิงมอนที่ไม่ได้มาเป็นฝูงมหามอน เราก็สามารถเอา Judex ไปทำคนเดียวได้ไม่ต้องง้อใคร แต่ถ้าเป็นภารกิจที่เราไม่สามารถทำคนเดียวได้ ยังไงก็ต้องพึ่งปาร์ตี้ หรือ เพื่อนในกิลด์นะจ๊ะ แนะนำให้หากิลด์อยู่ แล้วไปช่วยเขาวอบางครั้ง อาจจะไปแจม WOC หรือช่วยกันบ้านในกรณีที่กิลด์มีบ้านอยู่
บอร์ดภารกิจ
เควสต่อสู้ต่างๆ
ของสวมใส่
จากการไปแอบส่องสำนักต่างๆ เขาจะเน้นใส่ของที่ทำให้แมกนัสแรงๆเข้าไว้เพื่อเก็บมอนให้เร็วที่สุด (อย่างรองเท้าแก้ว Crystal Pumps / หูเอลฟ์ Elven Ears / หมวกแม่ชี Coif / รวมถึง โล่หนังสือ Exorcism ถ้าใส่กับ Nemesis หรือ Holy Stick จะทำให้แมกแรงขึ้น) แต่ในความเห็นเรานะ ในช่วงเลเวลยังไม่สูงแมกยังไงก็ไม่แรงหรอก ต่อให้เรามีของครบก็ตาม (รูนไม่ต้องพูดถึง กว่ารูนจะเต็มเราต้องมีทุนหลายล้านเพื่อไปอัพรูนให้ครบ) เราจึงคิดว่าของลดร่ายยังไงก็ยังสำคัญอยู่ แต่จากที่สำรวจตลาดมา ของลดร่ายอย่างเช่นปากโกรธ ราคาไม่ใช่น้อยๆเลย ซึ่งของที่เราจะแนะนำให้รีบหามาใช้ด่วนๆเลยก็คือ
Orleans Server (โล่สะท้อนเวทย์) กับ Orleans Glove (ถุงมือออร์ลีน ข้างเดียวก็ได้ถ้าทุนยังน้อย) ซึ่งหากอุปกรณ์ 2 อย่างนี้พอใช้ร่วมกันแล้วจะทำให้ร่ายไวขึ้นมากๆ (ย้ำว่ามากๆ dex เมื่อก่อนของเรายังแค่ 66 ก็ร่ายเร็วแค่วิเดียว) แล้วพอถึงเวลาที่เรามั่นใจว่าเราร่ายแมกนัสเร็วแล้ว เราค่อยหาโล่หนังสือมาใช้กับ Nemesis หรือ Holy Stick ก็ยังไม่สาย สรุปได้ว่า ตราบใดที่ของยังไม่เต็ม ร่ายยังช้าอยู่ เราว่ายังไงต้องมีคอมโบโล่สะท้อนเวทย์กับถุงมือออร์ลีนไว้จะดีที่สุด จากประสบการณ์ตรงของเราเลยนะ เคยไปปล่อยบอทฟาร์มที่ Harpy ร่ายแรงยังไง ถ้าช้าก็โดนเก็บตาย.....
และของอีกอย่างที่เราว่ายังไงก็ต้องซื้อให้ได้เร็วกว่าของเพิ่มเวทย์มากๆ ก็คือการ์ด
Light Fairy ซึ่งผลของการ์ดใบนี้คือ เราสามารถร่ายแมกนัสกี่ครั้งก็ได้โดยไม่เสีย
Blue Gemstone !! ซึ่งเราคิดว่าการลงทุนครั้งเดียวนี่มันคือของใช้ตลอดชีวิตการเล่นสาย
Magnus เลยนะ (เพราะมันแพงมากกกก 4-5 ล้านเลยทีเดียว) แต่ถ้าหากไม่อยากซื้อตูมเดียว ก็หาการ์ดใบเล็กๆมาผสม + เงินค่าผสม 1.5 ล้านได้ค่ะ ตามนี้เลย :
Munak Card
Skeleton Card
Wraith Card
Bongun Card
Carat Card
ทหารรับจ้างที่ต้องมี
ช่วงที่ยังเป็น Acolyte น้อยๆ แล้วอยากเก็บศัตรูได้ไวๆ เราแนะนำให้จ้าง
Maysa แต่หากว่าเปลี่ยนพรีสแล้ว จะเอา Turn Undead/Magnus ไปเก็บเลเวล เราคิดว่ายังไงก็ต้องมีคนคอยรับดาเมจให้กับเรา เพราะฉะนั้น เราแนะนำให้จ้าง Wasabi มาอีกตัว ซึ่งหากว่าไม่มีตังค์ไปจ้างแมวทีเดียว 2 ตัว
Wasabi ตัวเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อเราเลเวลสูงขึ้น และคิดว่าเราไม่ต้องการคนช่วยยิงอะไรมากมาย เราอาจจะเลิกจ้าง Maysa และไปจ้าง
Goro แทน เพื่อให้มาช่วย Heal ให้เราระหว่างที่เรากางแมกนัสและไม่มีโอกาสได้ฮีลตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ทหารรับจ้างที่สำคัญสุดสำหรับพรีสสาย Magnus ก็คือ
Wasabi เท่านั้น
สัตว์เลี้ยงคู่หูของเราชาวมือปราบผี
สำหรับคนที่งบน้อย หรือ เริ่มเล่น เราแนะนำให้จับ
“Lunatic” มาเล่นเป็นเพื่อนก่อนนะ เนื่องจากอุปกรณ์จับราคาถูก แถมกระต่ายน้อยก็ยิงไกลได้ แล้วยังเพิ่ม Max SP ให้ผู้เล่นได้ด้วย (ส่วนสกิลติดตัวที่ Refine Matk ช่างมัน เพราะเราจะได้ค่าเหล่านี้จากการตีบวกอุปกรณ์สวมใส่) หรือ ถ้าเรามีงบเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย ก็มี
Isis ซึ่งแม่งูสาวตัวนี้มีประโยชน์กับพรีสสายซัพพอร์ตมากกว่านะ แต่ก็ใช้ได้เนื่องจากสกิลติดตัวของแม่งูจะทำให้ลดเวลาร่ายแมกนัสให้กับเราด้วยล่ะ ! (แถมเพิ่ม Healing Bonus ทำให้เราฮีลแรงขึ้นด้วย มีประโยชน์กับตอนล่าบอสหรือเลเวลเองมากๆๆๆๆ) แต่สัตว์เลี้ยง
Must Have ที่เราคิดว่าดีที่สุดในตอนนี้เลย ก็คือ
Sohee ! เนื่องจากสกิลติดตัวของ Sohee จะทำให้เรายิงแมกนัสแรงขึ้น (เพิ่มค่า Matk) ซึ่งจะต่างจากกระต่ายน้อยเพราะเราก็สามารถยิงแมกนัสแรงๆได้โดยไม่ต้องตีบวกอุปกรณ์ให้เปลืองตังค์ และยังทำให้ SP ของเราเด้งไวขึ้นกว่าปกติจากสกิลติดตัวของนางด้วย (แต่จะได้ยากหน่อยเพราะของจับแพง+เป็นสัตว์เลี้ยงระดับสูงที่จับยากกว่าปกติด้วยนี่สิ) แต่รับประกันว่าถ้าได้นางมาก็จะติดใจแน่นอน
ส่วนสัตว์เลี้ยงที่ไฮโซขึ้นมาหน่อย (เนื่องจากต้องเอาสัตว์เลี้ยงความสนิทสนมเต็ม 10 แล้วมาผสม) ก็คือ
Harpy !! หรือเจ้าการุด้าสีเหลืองที่เรามักจะไปยิงบ่อยๆในแมพ Juno นั่นเอง เนื่องจากให้ค่าความเสียหายทางเวทย์สูงกว่า Sohee หรือ หากเราจะต้องแอบสลับสายไปเล่นซัพพอร์ตบ่อยๆ ก็ให้ปั้น
Miyabi Ningyou อีกตัวไว้ จะเป็นประโยชน์เวลาลงดันเจียนโหดๆกับเพื่อนๆร่วมตี้มากค่ะ
Sohee อยากยิงแรงๆต้องมีเธอ
Isis แม่งูสาวที่ทำให้เราร่ายไวขึ้น
Miyabi Ningyo แม่สาวตุ๊กตาผีของสายซัพพอร์ต
อาหารที่เหมาะสม
อาหารที่ต้องกินสำหรับไปเก็บเลเวลยังไงเราก็คิดว่า อาหาร 5 ดาวอย่าง
Original Will-Juice ดีที่สุด แต่ในกรณีที่เราเพิ่งเริ่มเล่น และยังมีเลเวลทำอาหารต่ำ เราอาจจะต้องไต่เต้าไปเรื่อยๆด้วยการทำอาหารระดับง่ายๆก่อน เช่น
Rookie Fruit Plate, Ice Cream, Duke Juice, Magic Ice Cream, Mum's Soup, Warm Oasis, Sage in Dark หรืออาหารที่มีการเพิ่มแรงโจมตีกับมอนส์เตอร์ที่ไม่ใช่ระดับบอส MVP อย่าง
Original Will-Cookie แต่อย่างที่กล่าวไว้ว่าอาหารระดับสูง (ดาวเยอะๆ) ทำยากเพราะมีโอกาสทำล้มเหลวสูงด้วย เพราะฉะนั้น ทำอาหารง่ายๆ ไต่เต้าไปเรื่อยๆจะดีกว่า (ทำมาแล้วต้องกินด้วยนะ ! เพราะถ้ากินเยอะๆตามที่ระบบกำหนดก็จะปลดล็อคสเตตัสเพิ่มเติมด้วย)
รูน ยิงแรงก่อน? หรือ โดนทุกตัวก่อน ?
คราวนี้มาถึงการ
อัพรูน บ้าง อาชีพพรีสใน M สามารถ
แมกโดนมอนทุกเผ่าพันธุ์ ได้แล้วนะ ! แต่การจะทำให้แมกโดนทุกเผ่าพันธุ์ก็ต้องอัพรูนเสียก่อน และอีกอย่างการอัพรูนให้ได้ทั้งแมกแรงทั้งโดนทุกตัวเนี่ย ต้องใช้รูนเยอะโขมากกกก ถึงกับต้องเลือกเลยว่าจะหันไปอัพอะไรก่อนดี.... ทั้งนี้ก็ต้องมาถามถึงอุปกรณ์สวมใส่ของตัวเองก่อน ถ้าเราเน้นร่ายไว แสดงว่า Matk ของเรายังน้อยอยู่ ยังไงเราก็ยังไม่แนะนำให้รีบอัพรูนแมกนัสโดนทุกตัว เราคิดว่า ยังไงเราก็ยังสามารถเอา Magnus ไปหากินกับพวก Demon และ Undead อีกยาวๆยันแสงออกเท้าไปถึงตอนเป็นคลาส 3 ได้เลย (ถึงขนที่ดรอปจาก Harpy จะขยะแสนขยะ ที่ขายไม่ค่อยออกก็เถอะ แต่เงินสดที่ได้จากตัวนางก็เยอะอยู่นะ) นอกจากนั้นมอนเมือง Niflheim ก็จะเป็นประเภทปีศาจและผีดิบ ถึงไม่มีรูนโดนทุกตัวยังไงก็ยิงโดนอยู่ดี
เพราะฉะนั้นถ้าจะถามว่าอัพรูนโดนทุกตัวก่อนดีไหม เราคิดว่า อัพได้นะ แต่แมกมันจะไม่แรง (ต้องกดยา int + กินอาหารเพิ่มความเสียหาย) เราเคยตัดสินใจรีรูนแล้วอัพแมกนัสโดนทุกตัวก่อน ผลคือ จากที่เคยยิงแรงทะลุ 20000 เรายิงแมกนัสได้แค่ 15000 ดาเมจเท่านั้น (มอนตายยาก เสียค่าสตามิน่าไปเยอะกว่าที่จะเป็น) แล้วถ้าจะเอาแมกนัสไปล่าบอสก็ลองนึกสภาพยิงออคฮีโร่เข้าแค่ทีละ 3000 ดาเมจละกัน (เราก็จะตายก่อนได้ขึ้น MVP นะจ๊ะ....)
แต่ๆๆๆๆ หากต้องการจะอัพรูนแมกนัสโดนทุกตัวก่อนจริงๆ พออัพรูนตรงที่โดนทุกตัวไป 1 จุดแล้ว ให้หยุด แล้วไปอัพรูนแมกนัสแรง ไม่ก็ Holy atk. เพิ่มก่อนดีกว่า แล้วหลังจากนั้นก็ไปบอทกับ Injustice หรือมอนที่มันเกิดที่เดิมหลังจากมันตายก่อนก็ได้ แต่ Injustice จะดีสุด เพราะธาตุมันเป็นความมืด แม้จะไม่ใช่ Demon ก็ยังพอแพ้แมกนัสอยู่นะ (แต่ทำใจเรื่องเงินกับไอเทมที่ดรอปด้วยแล้วกัน แต่การ์ดราคาดีอยู่ ได้แล้วรวยแน่นอน) แล้วต่อไปถ้าแมกแรงพอสมควรแล้ว ก็ค่อยเปลี่ยนที่ไปแมกหมีดำ (Zipper Bear) ก็ไม่สาย แต่อาจจะต้องไฝว้แย่งที่กับพรีสสาย Judex หน่อยๆนะ.....
คำเตือน : เดิมที รูนแมกนัสโดนทุกตัวจะปลดได้ต้องไปลงดันกิลด์ (Vallaha Remains) และเก็บหินดำ (nibelungen shards) 15 ชิ้นมาไว้ในครอบครองก่อน แต่ตอนนี้สามารถทำเควสแล้วปลดรูนแมกนัสโดนทุกตัวได้เลย สามารถไปทำกับเทพีวาลไครี่ที่พรอนเทร่า (หน้าสมาคมเปลี่ยนอาชีพ) นะจ๊ะ
สรุปแล้ว รูนจำเป็นที่ต้องอัพ
1. Magnus (Empower) ต้องยิงแรงก่อน
2. Magnus (Mastery) ลดดีเลย์แมกนัส และสามารถยิงโดนมอนนอกจาก Demon และ Undead ได้
3. Holy Dmg เพิ่มความแรงของธาตุศักดิ์สิทธิ์ (จริงๆรูนนี้สายยิงนี่ต้องอัพทุกคนนะ)
4. Aspersio (Multi-effect) เมื่อใช้สกิลชนแก้ว จะทำให้แมกแรงขึ้น
5. Suffragium (Delay) ลดดีเลย์ในการแมก
6. Sacrifice Ode ลดคูลดาวน์ของการแมก (คนละอันกับลดดีเลย์นะ)
7. Oratio (Strong) ลด Mdef ของศัตรูที่โดนสกิลเป็น %
นอกจากนั้นจะอัพอะไรต่อก็ได้ ฮีลแรงก็ได้ วาร์ปก็ได้ Kyrieเดินเร็ว ก็ได้ แล้วแต่จะเอาไปเล่นเลยจ้า
เคล็ดลับการปล่อยบอท Magnus
ช่วงแรกของการเก็บเลเวลด้วยแมกนัสเราอาจจะเปิดบอทแมกนัสไม่ค่อยได้ประสิทธิภาพเท่าไหร่นะ เนื่องจากเรายังร่ายไม่เร็ว + แมกยังไม่แรง แนะนำให้เล่นด้วยมือก่อน แล้วไปเก็บกับพวก Evil Druid เอา (ต้องชั้นสองเท่านั้นนะ ชั้นแรกมอนกระจัดกระจายเกิน) วิธีการลากก็ไม่ยาก แค่เราลากเป็นวงกลม และ เปิด Suffragium หลังจากนั้นก็กางแมกนัส ผลของสกิลนี้จะทำให้ระยะเวลาร่ายลดลงมากๆ เราสามารถแมกได้รัวๆ (รับรองสะใจแน่นอน) แต่ข้อเสียก็มีตรงที่ SP จะหมดไวมาก เพราะเราวิ่งไปด้วยแมกไปด้วย ถ้ายังไงเวลาแมกก็รอจนกว่าศัตรูจะตายหมด แล้วค่อยกางแมกใหม่ก็ได้ แต่สำหรับคนที่อัพรูนแมกนัสโดนทุกตัวเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถไปบอทที่ Injustice ที่ท่อน้ำกลาสเฮม การบอท Injustice จะบอทง่ายมาก เนื่องจากมันจะเกิดเป็นที่เป็นทาง เราสามารถเลือกจุดยืนแล้วไปเปิดบอท Magnus ยาวๆได้เลย เราสามารถแมก Injustice ได้ยาวๆถึงเปลี่ยนคลาสสามเลยนะ
แต่หากเราพบว่า เปอขึ้นช้าไม่โดนใจแล้ว เราแนะนำให้ไปยิง Harpy ที่แมพใต้ Juno หรือ แมพเหนือ Al de baran ก็ได้ Harpy อาจจะเกิดไม่เป็นระเบียบเท่า Injustice แต่เราสามารถไปหาที่ยืนที่มี Harpy เยอะๆก็บรรเลงเปิด Magnus รัวๆได้เลย (ทั้งนี้อย่าลืมใส่ Stay Alert ไว้ด้วยเพื่อไม่ให้พรีสของเราวิ่งมั่วไปที่อื่น) แล้วก็เราอาจจะสังเกตว่า Harpy จะยิงเวทใส่เรารัวๆ วิธีนี้ไม่ต้องกลัวว่าเราจะตายเลยทีเดียว ให้เราเซ็ตออโต้สกิล Sanctuary ไว้ด้วย มันจะคอยยื้อชีวิตเราให้เราไม่ตายง่ายๆ Sanctuary ไม่ต้องเสียบลูเจมอยู่แล้ว แถมยิง Harpy เข้าอีกต่างหาก แต่ข้อเสียก็มีนะ คือบางทีบอทก็จะใช้แต่สกิล Sanctuary มากกว่าการเปิด Magnus ทำให้ยิงมอนยังไงก็ไม่ตายซะที ยังไงช่วงแรกที่บอท Harpy ก็นั่งดูสักพักแล้วค่อยไปทำอย่างอื่นดีกว่า
แล้วมันจะมีกรณีที่เราเปิด Sanctuary เพื่อฮีลเหล่าแมวทหารรับจ้างของเรา โดยเฉพาะ Wasabi ที่ต้องคอยรับเท้าให้เรา บางทีเราฮีลไม่โดนเพราะยิงไปที่ Harpy ไม่ได้ยิงไปที่ Wasabi เราก็มีวิธีแก้เช่นกัน ด้วยการเชิญจูงมือ Wasabi เอาไว้ ซึ่งเจ้าแมวก็จะเดินมาใกล้ๆและจูงมือเราไว้ตลอด เวลาที่เราได้ฮีลจาก Sanctuary เจ้าแมวก็จะได้รับ Heal ไปด้วย ไม่ต้องมานั่งกลัวว่าเจ้า Wasabi จะตายก่อนเราด้วย ชั้นไม่ตาย เธอก็ต้องไม่ตายนะ !!
เราสามารถเก็บ Harpy ยาวๆยันคลาส 4 ได้เลยทีเดียว
Suffragium ที่ไม่ใช่ลดร่ายเท่านั้น ?
หากพูดถึง ROM จะไม่พูดถึงสกิลนี้ก็กระไรอยู่ เพราะวิธีใช้ใน PC กับ M จะต่างกันนะ เพราะสกิลนี้ใน M เราสามารถใช้ให้ตัวเองได้ แต่มีระยะเวลาร่าย บางคนอาจจะคิดว่า “ชั้นร่ายเร็วอยู่แล้วไม่ต้องใช้ก็ได้” แต่ Suffragium เลเวล 3 เป็นทางผ่านสู่สกิล Sacrament ของ Arch Bishop ซึ่งสกิลนี้สามารถลด cast time fix ของเราและเพื่อนในตี้ได้ ซึ่งเราว่ายังไงถ้าเราเปลี่ยนอาคบิชอป แล้วเราก็ต้องรี หรือเอาแต้มมาลงสกิลนี้ก่อนอยู่ดี จึงขอฟันธงไปเลยว่า.... ควรอัพ แต่ไม่ต้องรีบอัพก็ได้...... (สำหรับคนใช้คอมโบโล่จานกับถุงมืออร์ลีนนะ) และควรอัพจนถึงเลเวล 5 (ในกรณี dex เราสูงแล้ว)
**ในกรณีคลาสสามใกล้เปลี่ยนคลาสสี่ Suffragium จะกลายเป็นสกิลที่สามารถลดดีเลย์ของสกิลแมกได้ด้วย (จากเดิมที่ลดร่ายได้อย่างเดียว) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องระวังด้วย เพราะว่าเราต้องอัพรูนแท่น Asa God Monument ด้วย และต้องเลือกนะจ๊ะว่าจะให้มันลดร่ายหรือลดดีเลย์ เพราะใช้พร้อมกันไม่ได้จ้ะ....
สกิล Aspersio ก็ทำให้แมกยิงแรงได้นะจ๊ะ !
เรื่องนี้เราก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าสกิลชนแก้วในเวอร์ PC จะเพิ่มดาเมจให้กับแมกนัสได้ (แต่จะทำให้มีผลต้องอัพรูน Aspersio ด้วย) แต่ถามว่าถ้าเรารู้แล้วจะต้องรีบไปอัพ(รูน)เลยไหม บอกได้เลยว่า ยังไม่ต้องรีบอัพขนาดนั้นนนนน รอใกล้เปลี่ยนคลาส 4 ค่อยอัพก็ได้ เพราะอย่างน้อยทุกสกิลของอาคบิชอปที่มีอยู่ก็สามารถล้มมินิบอสและบอสประเภท Demon + Undead สบายๆอยู่แล้ว สกิลนี้เหมือนจะช่วยให้เราสามารถเพิ่มดาเมจให้กับมอนส์เตอร์ที่ไม่ใช่พวกผีปีศาจให้แรงขึ้นมากกว่า (ถ้าเรารู้ตัวว่าเรามาสายดาเมจแล้วก็ต้องรีดดาเมจเอาให้สุดๆไปเลย แต่ก็ยืนยันว่ารูน Aspersio ไว้อัพตอนรูนฟูแล้วหรือใกล้เปลี่ยนคลาส 4 ก็ได้)
และแล้วเราก็ได้ขึ้นเป็น Saint คลาส 4 แล้วจ้าาา ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน เพราะช่วงสิบจ๊อบหลังหลังนี้ไม่ได้แมกเองแต่ไปยืนดูดเพื่อนที่เวสแลนด์จ้ะ
สกิลคลาส 4 ที่น่าอัพ
มาถึงสกิลทรีของพรีสสายแมกนัสคลาส 4 ที่วุ่นวายน่าปวดหัว (สำหรับคนเพิ่งขึ้นคลาสสี่เป็นตัวแรก) จริงๆแล้ว หากใช้หนังสือ Orgin 5 เล่มปลดล็อคเพดานสกิล และต้องอัพสกิลทุกสกิลในกระดานให้เต็ม (ไม่ใช้ก็ต้องอัพ) เราก็จะได้ Status ให้อัพฟรีอีก 300 แต้ม แต่เนื่องด้วย Time Quick Sand ที่หายากเวอร์ๆ ทำให้เราจำเป็นต้องอัพสกิลบางสกิลที่เป็นประโยชน์สำหรับเราซะก่อน เพราะฉะนั้นก็เลยมีสกิลที่น่าอัพแนะนำให้ไปอัพกันก่อนจะได้แมกมันส์ๆกันนะ
Bader Crown - สกิลบัฟ Holy Atk จริงๆสกิลนี้มันจะเหมาะมากถ้าอยู่ในมือของสายกระบอง แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีผลกับสายแมกนัสด้วย ทั้งนี้สกิลนี้จะทำให้เราฮีลแรงขึ้นด้วย แม้ไม่ได้อัพรูนฮีลก็ตาม เป็นประโยชน์กับเพื่อนคนอื่นด้วย เวลาลงทานาทอสอะไรงี้ เป็นทุกอย่างให้เธอได้เลยไม่แพ้สายซัพ
Hodel Wings - สกิลบัฟ M.pen ถ้าอัพเต็มเรารู้สึกว่าสกิลนี้ยิงแมกนัสแรงกว่า Bader Crown อีกนะ แม้จะมีผลกับสกิลสายมืดด้วยก็ตาม แต่เนื่องจากผลของ Bader Crown มันมีแค่ 40 วิ (ที่เวล 10) อาจจะต้องรอสักพักกว่าจะใช้ได้อีก เพราะฉะนั้น เราสามารถใช้ Hodel Wings ต่อได้เลยหากผลของ Bader Crown หมดไปแล้ว แต่ควรระวังว่า ถ้าใช้ Hodel Wings ผลของสกิล Bader Crown จะหายไปทันทีเนื่องจากทั้งสองสกิลไม่สามารถใช้ทับกันได้นั่นเอง
Hodel Wings -Shadow Power - สกิลติดตัวเพื่อการบัฟค่าเจาะเกราะเวท Ignore Magic Defense (Mdef) เมื่อใช้สกิล Hodel Wings จะได้รับผลจากสกิลนี้ทันที สำหรับสายแมกนัสที่ไปยิงมอนส์เตอร์สายอื่นที่ไม่ใช่ปีศาจหรือผีดิบ สกิลนี้จำเป็นอย่างมาก ควรจะอัพเต็มไปเลย (หรือปลดด้วยหนังสือไปเลยก็ดี)
Gratitude Prayer - สกิลติดตัวนี้จะสามารถยิงมอนส์เตอร์ธาตุมืดและผีดิบแรงขึ้นเป็นเปอร์เซนต์ และสามารถลดแรงโจมตีจากธาตุดังกล่าวได้ด้วย สกิลนี้สำคัญเวลาล่าบอสหรือกิลด์วอร์ เพราะเราก็รู้กันว่าสมัยนี้เหล่า Priest สามารถใช้ธาตุ Dark โจมตีเราได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นไฮคลาสได้แล้ว รวมถึง Rune Master ที่สามารถโจมตีเราได้ด้วยธาตุมืด เราอาจจะนอนทันทีก็ได้ เพราะฉะนั้นอัพสกิลนี้ไปด้วยอุ่นใจกว่า
Bader Aria - สกิลสายซัพพอร์ตที่เราคิดว่ามีประโยชน์มากๆสำหรับคนยังไม่อยากตาย เพราะถ้าเราตายภายใน 8 วินาทีที่มีการใช้สกิลนี้ เราจะสามารถฟื้นคืนชีพแบบเลือดเต็มหลอดได้ทันที แต่สกิลนี้ก็มีจุดบอดที่เวลาสกิลน้อยไปหน่อย ถ้าใช้แล้วต้องรีบตายภายใน 8 วิ ถ้าตายหลัง 8 วิผ่านไป ยังไงก็นอนยาว (อย่าลืมพก Blue Gemstone ด้วยนะจ๊ะ เพราะสกิลนี้ต้องใช้บลูเจมจ้ะ)
Hope Ode - อีกหนึ่งสกิลสายซัพพอร์ตที่น่าอัพอย่างมาก เพราะจะทำให้เราฮีลแรงขึ้น และเพิ่มค่าต้านสถานะผิดปกติต่างๆด้วย เช่น มึน มืด แข็ง เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ และอื่นๆ ยิ่งอัพเลเวลสูงค่าต้านทานเหล่านี้ก็จะมากขึ้น ทำให้เราอึดขึ้นเพื่อต่อต้านศัตรูของเราได้ อีกอย่างสกิลนี้จะไม่ทับ Bader Crown เหมือน Hodel Wings ด้วย
Glow Bliss - เมื่อเราโดนตบ แรงโจมตีที่เราโดนจะกลายเป็น Max HP (เพิ่มขีดจำกัดของเลือดเรา) สามารถซ้อนกันได้หลายรอบด้วย ทำให้เราตายยากขึ้น และสกิลนี้ไม่ต้องกดใช้ เพียงกดใช้ Hope Ode เท่านั้นเราก็จะได้รับผลของสกิลนี้ทันที
ยังมีสกิลอื่นอีก ซึ่งเราจะขอไปศึกษาอีกสักพักเดี๋ยวจะนำมาอัพเดตนะจ๊ะ......
จริงๆแล้ว สายนี้มีประโยชน์ใน PVP กิลวอร์และล่าบอสเยอะกว่าเวอร์ชั่น PC อีกนะ เนื่องจากมีสกิลคุ้มกันตัวเองครบวงจร ไม่มีสกิลที่ใช้แล้วขัดใจเหมือนเวอร์ PC แถมมีแมกนัสที่กัดแล้วเจ็บอีกต่างหาก แม้สกิลอาจจะไม่ได้รุนแรงเท่าพวกสายเมจก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าเล่นสายนี้แล้วจะสนุกไม่แพ้ Judex แน่นอน หากมีข้อมูลที่ขาดหาย หรือผิดพลาดประการใด ก็สามารถแจ้งหรือคอมเม้นท์ได้นะจ๊ะ
