Monday, November 18, 2013

[Preview Otome Game] 放課後 Colorful Step うんどうぶ!


แหะๆ มาลงบล๊อคตัวเองด้วยเพื่อเพิ่มเรทติ้ง (เรทติ้งวอสสสสสสส ToT)

พรีวิวลงที่เวป Online Station เรียบร้อยแล้วค่ะ (คลิกที่รูปเยยยย)

http://www.online-station.net/news/preview/1144

เนื้อเรื่องย่อ

ณ โรงเรียนมัธยมเอกชนโทคิวะ โรงเรียนที่มีกิจกรรมชมรมหลากหลาย 
พวกเขามีกฎให้นักเรียนทุกคนต้องมีชมรมอยู่ 
โคฮินาตะ นัทสึโกะ และ ฮารุโกะ (นางเอก/ผู้เล่น)
เพิ่งย้ายเข้ามาในโรงเรียนโทคิวะตอนม.ปลายปี 2 ใหม่ๆ
กำลังลังเลว่าจะเลือกเข้าชมรมใดดี ผ่านการลองเข้าชมรมที่หลากหลาย 
เพื่อสะบัดความลังเลออกไปนั้น ทั้งสองเลือกกันอยู่นานมาก 

จนสุดท้ายมีทางเลือกอยู่แค่คนละ 2 ชมรม แล้วชมรมที่คุณเลือกจะเป็นชมรมไหนละ.... ?

เกมนี้วางจำหน่ายสองครั้งนะคะ เพราะมีแยก ชมรมกีฬา กับ ชมรมวัฒนธรรมค่ะ

มีดราม่าซีดีด้วยนะเอออออ (สาวกเซย์ยูมีชื่อห้ามพลาดดดดดด)



ไปอ่านแล้วก็ไปเม้นกันด้วยนะก๊ะ จ๊วบๆๆๆๆๆๆๆคนเม้นค่าาาาาาาาาาาาาาาาา

Thursday, November 14, 2013

[Translation] 月蝕 (Eclipse) Diabolik Lovers More,Blood


เย้ววววววว ชั้นเป็นอะไรกับเพลงจบเกมดีอาเลิฟเวอร์นักหนาเนี่ยยยย
ครั้งที่แล้วก็บ้าพลังแปลทั้งอิ๊งเวอทั้งไทยเวอกับเพลง Parhelion Logic
วันนี้มาแปลเพลงจบภาคมอร์บลัดค่ะ !


คำเตือน
1. ในเพลงมีภาษาพูด เพราะฉะนั้นตอนแปลเราจะแปลเป็นภาษาพูดเลยนะคะ
2. อาจจะมีคำแปลกๆ อันนี้เราไม่แน่ใจ ใครรู้หรือมีความสามารถมากพอ สามารถหลังไมค์มาแก้ให้เราได้นะคะ...
3. ห้ามเอาความหมายออกนอกบล็อก ไม่งั้นเราจับประจานแน่ (หึหึ....) หรือ ถ้ามั่นใจว่าคำแปลของเราจะไม่ทำให้หน้าแตก ก็เอาออกไปได้เลยค่ะ (อ้าว.... – คนอ่าน)




月蝕 (Eclipse)
จันทรคราส
เพลงประกอบ Ending เกมจีบหนุ่ม Diabolik Lovers More,Blood
ผู้ขับร้อง : 

มุคามิ โคว (คิมุระ เรียวเฮ)
มุคามิ ยูมะ (สุซุกิ ทัตสึฮิสะ)
มุคามิ อาซึสะ (คิชิโอะ ไดสุเกะ)
แปลภาษาไทยโดย : Aikarin Sakamaki
แหล่งจำหน่ายซีดี : Amazon_JP


色褪(いろあ)せた写真(しゃしん)を嬉(うれ)しそうに眺(なが)める少女(し ょうじょ)
หญิงสาวผู้มองรูปภาพเลือนรางอย่างดีใจ

自壊(じかい)する暇(ひま)もなく
ไม่มีแม้เวลาจะทำลายตัวเอง

鍵(かぎ)をかけた宝箱(たからばこ)の中身(なかみ)は 
ของภายในกล่องสมบัติที่ลงกลอนไว้

純(じゅん)に腐(くさ)ってたのでしょう? 
มันเน่าหมดแล้วใช่ไหม ?

鏡(かがみ)の向(む)こうで笑(わら)っている人形(じぶん)に疑問(と)えばい い
จงถามตุ๊กตา(ตัวเอง)ที่หัวเราะอยู่ในกระจกตรงข้ามเธอดูสิ

「窓(まど)から差(さ)し込(こ)む木漏(こも)れ日(び)を憎(にく)むのは必 然(ひつぜん)でしょう」
การเกลียดชังแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างอาจเป็นเรื่องธรรมชาติก็ได้

割(わ)れた自己顕示(プライド)は
ความหยิ่งผยองที่แตกหักนั้น

どこまでも真(ま)っ直(す)ぐに
จะวิ่งตรงไปตลอดทาง

誰(だれ)も傷(きず)つけたくない、と
歪(ゆが)んだ理想(りそう)に夢現(ゆめうつつ)
ความฝันเลื่อนลอยด้วยความคะนึงอันบิดเบี้ยวที่ว่า “ฉันไม่ต้องการทำร้ายใคร”

思(おも)うほど緩(ゆる)む口(くち)
ปากที่ไวยิ่งกว่าความคิด

滴(したた)り落(お)ちた告解(こっかい)も、また「虚言(うそ)」
คำสารภาพที่หยดลงไปก็ โกหกอีกแล้ว

塞(ふさ)いで欲(ほ)しいと懇願(ねが)う月(わたし)に圧(お)しかかる
คำอ้อนวอน(ขอร้อง)ที่กดดันให้พระจันทร์(ฉัน)กลบมันเอาไว้

貴方(あなた)はまるですべてを飲(の)み込(こ)んでく蝕(Eclipse)
เธอนั้นราวกับจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างลงไป จันทรคราส (Eclipse)

もっと奥(おく)へ......
ให้ลึกกว่าเดิม

もっときつく......
ให้แน่นหนากว่าเดิม

悩(なや)ましい苦言(くげん)を踏(ふ)みにじって嘲(あざけ)る症状(しょうじ ょう)
อาการที่เหยียดหยามและล้อเลียนคำแนะนำตรงๆแสนเสน่ห์

俯瞰(ふかん)する余裕(よゆう)哭(な)く
ไม่มีค่าต้องไปสนใจมัน

灰(はい)を被(かぶ)る自尊心(おもいやり)の正体(しょうたい)
ตัวตนของความผยองที่ครอบเถ้าถ่านไว้

真(しん)に汚(よご)れてたのでしょう?
มันแปดเปื้อนไปแล้วจริงๆใช่ไหม ?

下弦(かげん)を知(し)らずに落下(お)ちてく月(つき)は美(うつく)しくて
พระจันทร์ที่โน้มลง อย่างไม่รู้วันและเวลา ช่างดูสวยงาม

「夢(ゆめ)から覚(さ)めない幻想(げんそう)に生(い)きるのは当然(とうぜん)でしょう」
การมีชีวิตอยู่ในจินตนาการที่ไม่ยอมตื่นจากความฝัน อาจเป็นเรื่องธรรมชาติก็ได้

歪(ゆが)む都合主義(STORY)を
หลักการที่เอาแต่ความสะดวก (เรื่องราว) อันผิดเพี้ยนนั้น

果(は)てしなく貫(つらぬ)けば
ให้มันดำเนินต่อไปแบบไม่จบไม่สิ้นสิ

みんな居(い)なくならないで、と
無想(むそう)の理論(りろん)は崩壊(くず)れ落(お)ち
ทฤษฎีความจริงที่ว่า “ทุกคนอย่าหายไปไหน” มันล่มสลายหายไป

願(ねが)うほど乖離(かいり)して
ทำให้คลาดเคลื่อนยิ่งไปกว่าคำวิงวอน

溢(あふ)れ出(だ)した切望(ねがい)も、また「虚言(うそ)」
ความปรารถนา (คำขอร้อง) ที่พรั่งพรูออกมาก็โกหกอีกแล้ว

殺(あや)めて欲(ほ)しいと告(つ)げた
บอกว่าอยากให้ฉันฆ่าเธอ

私(わたし)を支配(ほし)がってる
เธอออกคำสั่ง(ต้องการ)ฉันอยู่ตอนนี้

貴方(あなた)はきっとすべてを奪(うば)おうとしてる蝕(Eclipse)
ตัวเธอนั้นต้องกำลังพยายามช่วงชิงทุกอย่างอยู่แน่นอน จันทรคราส (Eclipse)

もっと強(つよ)く......
ให้แรงขึ้นไป

もっと深(ふか)く......
ให้ลึกลงไป

癒(い)えぬ傷痕(おもいで)が
แผลเป็น(ความทรงจำ)ที่ล่อหลอกนั้น

いつまでも愛(いと)おしい
จะแสนรักไปถึงไปตลอดกาล

誰(だれ)も傷(きず)つけたくない、と
歪(ゆが)んだ理想(りそう)に夢現(ゆめうつつ)
ความฝันเลื่อนลอยด้วยความคะนึงอันบิดเบี้ยวที่ว่า “ฉันไม่ต้องการทำร้ายใคร”

思(おも)うほど緩(ゆる)む口(くち)
ปากที่ไวยิ่งกว่าความคิด

滴(したた)り落(お)ちた告解(こっがい)も、また「虚言(うそ)」
คำสารภาพที่หยดลงไปก็ โกหกอีกแล้ว

塞(ふさ)いで欲(ほ)しいと懇願(ねが)う私(わたし)に圧(お)しかかる
คำอ้อนวอน(ขอร้อง)ที่กดดันให้ฉันกลบมันเอาไว้

貴方(あなた)はまるですべてを飲(の)み込(こ)む蝕(Eclipse)
เธอนั้นราวกับจะกลืนกินทุกอย่างลงไป จันทรคราส (Eclipse)

みんな居(い)なくならないで、と
無想(むそう)の理論(りろん)は崩壊(くず)れ落(お)ち
ทฤษฎีความจริงที่ว่า “ทุกคนอย่าหายไปไหน” มันล่มสลายหายไป

願(ねが)うほど乖離(かいり)して
ทำให้คลาดเคลื่อนยิ่งไปกว่าคำวิงวอน

溢(あふ)れ出(だ)した切望(ねがい)も、また「虚言(うそ)」
ความปรารถนา (คำขอร้อง) ที่พรั่งพรูออกมาก็โกหกอีกแล้ว

殺(あや)めて欲(ほ)しいと告(つ)げる
บอกว่าอยากให้ฉันฆ่าเธอ

私(わたし)を支配(ほし)がってる
เธอออกคำสั่ง(ต้องการ)ฉันอยู่ตอนนี้

貴方(あなた)はきっとすべてを奪(うば)おうとしてる蝕(Eclipse)
ตัวเธอนั้นต้องกำลังพยายามช่วงชิงทุกอย่างอยู่แน่นอน จันทรคราส (Eclipse)

もっとぜんぶ......
เอาเข้าไปอีก.....

もっとぜんぶ......
เอาเข้าไปให้หมด.....

===================================

My comments about this song & translations :
เพลงนี้ปวดตับเหมือนกับ Parhelion เด๊ะๆเลยเหอๆ
อยากรู้ว่า "หญิงสาวผู้มองรูปภาพเลือนรางอย่างดีใจ" ใครกันน้อ....
นางเอกปะ...ตอนจบนางเอกเข้าโรงพยาบาลบ้าปะ 55555+

//โดนถีบ

Monday, November 11, 2013

[Review Drama CD] Vanquish Brothers 1st Night Nobunaga

- พูดคุยก่อนรีวิวกันหน่อยนะคะ -
ช่วยอ่านข้อความของเราในตอนจบด้วยนะคะ จุ๊บๆ //โดนถรีบ

[Drama CD] Vanquish Brothers 第壱夜 ノブナガ
CV. ชิมาซากิ โนบุนางะ
Release Date : 30 October 2013
ผลิตโดย : Rejet
Rate : ไม่จำกัดอายุ (แต่ตอนนี้คนรีวิวแนะนำสำหรับคนอายุ 18 ปีขึ้นไปฟังนะคะ...)
อุปกรณ์เสริม : Dummy Head Microphone


ตัวละคร
Nobunaga  CV. Shimazaki Nobunaga (พี่ชายคนโตของบ้าน โดะเอส คิจิคุ(โฉด) สั่งสอน)
นางเอก เป็นเจ้าหญิงที่ต้องมอบคืนแรกให้หนุ่มคนไหนสักคน CV. คนฟัง

ปล. เราขอแทนตัวนางเอกเป็นคำว่า “เรา” นะคะ คนอ่านจะได้จิ้นตัวเองไปด้วย 555555+ ส่วนโนบุนางะ เราอาจจะเรียกว่า “โนบุนางะ” บ้าง “โนบุ” บ้าง แต่เป็นคนเดียวกันนะคะ


Track 1 天下無敵 Prologue

แทรคเริ่มขึ้นในขณะที่เรากำลังจะกลับบ้าน เราก็ถูกฉุดโดยชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง แต่แล้วก็มีชายอีกคนปรากฏตัวขึ้น เขาเดินเข้ามาถามแบบทำเท่ห์ว่า “ต้องการอะไรจากเธอคนนั้น” และเขาก็สังเกตว่าคนพวกนั้นไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนเดียวกับเขาด้วย เขากำลังจะถามชื่อของคนพวกนั้น แต่แล้วเขาก็หยุดและบอกว่าไม่จำเป็นต้องถามแล้ว เพราะว่าพวกนั้นก็คงเป็นพวกดักฉุดผู้หญิงในที่ๆไม่มีคนนั่นเอง เขายังพูดกับคนพวกนั้นอีกว่า ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงไม่ห้าม แต่เพราะเป็นเรา เขาจะไม่ยอมยกให้เด็ดขาด พวกนั้นจึงถามชายหนุ่มว่า “แกละเป็นใคร ?” แต่เขาก็ไม่ยอมตอบ และ ย้ำว่าเราเป็น ผู้หญิง ของเขา ถ้ายุ่งกับเราละอย่าหาว่าเขาไม่เตือน

แต่แล้วพวกนั้นก็ไม่ยอมปล่อยเรา ชายหนุ่มจึงคิดว่า คงอยากเจ็บตัวกันมากสินะ และ บอกว่าพวกนั้นก็แค่แมลงรำคาญเท่านั้น เขาคนเดียวก็ถล่มได้ทั้งกลุ่ม และการต่อสู้กันก็เริ่มขึ้น โดยเขาใช้หมัดเข่าศอกล้มคนพวกนั้นจนหมด เขายังจะพูดได้อีกว่าฝีมือของคนพวกนั้นกับเขายังห่างกันนัก เหลือเพียงแต่คนที่ยังจับแขนเราอยู่เท่านั้น ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาเขา และบอกว่า อย่ามาเสียเวลากับเขาเลย และบังคับให้เขาปล่อยเรา (แทรคนี้โนบุจะพล่ามเยอะมาก แต่เนื้อหาก็ออกแนวสวมวิญญาณโนบุนางะ(เซ็งโกคุ)อยู่นั่นแล)

แต่แล้วคนที่จับแขนเราอยู่ก็จุดไฟขึ้นมา และบอกว่าถ้าเขาก้าวเข้ามาอีกเขาจะเผาเราจริงๆด้วย ชายหนุ่มจึงชักดาบออกมา และบอกว่าจะเผาเราก็เผาไปเลย (ป๊าดดดดด) แต่ว่าถ้าเผาเรา เขาก็จะฆ่าทิ้งพร้อมสาปแช่ง โทษฐานที่มาทำลายของของเขา ทำให้อีกฝ่ายชักจะลังเล(สงสัยจะกลัวดาบ เพราะในปัจจุบันเขาไม่พกดาบกันแล้ว) แต่แล้ว ชัยชนะก็เป็นของชายหนุ่มจนได้ หลังจากที่สู้กันได้อยู่สักพัก จนอีกฝ่ายวิ่งหนีไป

เมื่อคนกลุ่มนั้นหนีกันไปหมดแล้ว โนบุนางะก็เก็บดาบไป เขาก็บ่นว่าคนพวกนี้ก็ได้แค่กร่างหลอกฉุดสาวไปวันๆเท่านั้น ก่อนที่เขาจะหันมาหาเราที่ยังอึ้งทำอะไรไม่ถูก เขาบอกให้เราเงียบและตามเขามาเฉยๆก็พอ เพราะเราเป็นสมบัติของเขา เขาจะทำอย่างไรกับเราย่อมได้ สุดท้ายเขาก็พาเราไปยัง........

Track 2 開物成務 เริ่มพิธี

โนบุนางะพาเรากลับมายังบ้านของเขา เรายังยืนลังเลอยู่หน้าห้องนอน  โนบุนางะจึงดึงเราเข้าไป และถามว่า กลัวการได้อยู่กับเขาสองต่อสองมากเลยหรือไง ? เราก็สังเกตว่าทำไมมันมีชุดกิโมโน (ไว้สำหรับแต่งงาน?)อยู่ในห้องนั้นด้วย เขาจึงถามเรากลับว่า “จำไม่ได้หรอกหรอ เรื่องที่เธอต้องมอบคืนแรกของเธอให้ฉัน” จริงๆแล้วเขาต้องเป็นคนพาเรามาและให้เราเลือกหนึ่งในพี่น้องของเขาที่จะได้คืนแรกของเราไป แต่ว่า... เขานี่เองที่จะเป็น”ผู้ชาย”คนแรกของเรา พวกน้องชายของเขาไม่มีใครที่เหมาะกับเราสักคนหรอก (บังคับชัดๆนี่หว่า....) และเขาก็กล่าวเริ่มพิธี แล้วบอกว่าเราร้องเรียกในใจอยู่แล้วใช่ไหมละว่าให้ทำเร็วๆ โนบุนางะเตือนเราอีกว่า “ห้ามขัดขืนเด็ดขาด ถ้าขัดขืนชั้นจะใช้ดาบของฉันทำให้เธอขยับไม่ได้ตลอดชีวิตเลย...” ซึ่งสิ่งสำคัญของเขาคือการมีชีวิตอยู่ของเราเท่านั้น (หมายถึงว่าถ้าชั้นฆ่าเธอทิ้งแล้วฉันก็จะฆ่าตัวตายตาม จะได้ไปเจอกันในนรกต่อ 5555+)

และแล้วโนบุก็ออกคำสั่งให้เราไปนอนบนเตียง และบอกว่าเขาพูดอะไรเราต้องทำตามทันที เพราะทุกอย่างเป็น”คำสั่ง”ที่เราต้องทำตาม แต่เราก็ยังขยับตัวอยู่ โนบุจึงนึกว่าเราจะพยายามหนี เขาจึงชักดาบออกมาเล็กน้อย แต่เราก็แก้ตัวว่าเป็นแค่ ”จะถามว่าเราต้องทำยังไงบ้าง” เขาจึงบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด แต่ต้องใช้ “ท่าที(ร่างกาย)” เท่านั้น หลังจากนั้นโนบุนางะก็ให้เราหันไปหาเขาและก้มหัวให้”เจ้านาย”ของเรา และบอกว่าถ้าเราทำดี เขาก็อาจจะอ่อนโยนเพียงเล็กน้อยให้เราก็ได้ เพราะอย่าหวังเลยที่เขาจะนิสัยเหมือนผู้ชายคนอื่น ยิ่งเป็นครั้งแรกของเราแล้วด้วย

แต่เราก็ยังพยายามจะขัดขืน เขาจึงเข้ามาจับตัวเราไว้และมากระซิบข้างหูว่า หากคิดจะหนี เขาก็จะทำให้เรารู้สึกเสียใจทีหลังที่หนีเขา เพราะผู้หญิงที่ไร้เดียงสาที่เดินตามเขามาจนถึงห้องแบบเรา คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้เราฟังอีกแล้ว แต่เรายังดิ้นขัดขืนต่อไปเรื่อยๆ เขาก็คอยจับไม่ให้ดิ้น และบอกว่าถ้าพระเจ้าไม่มาช่วยอีก ก็ต้องอยู่ในการคุ้มครองของเขาแล้วหละ และจริงๆแล้วเราไม่ได้ตั้งใจขัดขืนตั้งแต่แรกหรอก ภายในหน้ากากของสุภาพสตรีก็คือผู้หญิงที่เริงร่านอยากจะเสียท่าให้เขาไวๆเท่านั้น เราก็เริ่มตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ แต่มันก็ยิ่งทำให้เขายิ้มมากกว่าเดิม เพราะคิดว่าน้ำตานั้นมันเป็นน้ำตาแห่งความยินดีมากกว่า เราก็ส่ายหน้าปฏิเสธ เขาก็หาว่าเราโกหกอีก

แต่เมื่อเห็นเราร้องไห้ออกมา โนบุนางะจึงชะงัก เขาส่ายหน้าให้ความคิดที่ว่า น้ำตาจะช่วยให้ทุกอย่างจบ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด และเขาบอกว่า น้ำตาไม่ได้ทำให้เขาสงสารเราหรอก ยิ่งเราร้องไห้ ก็ยิ่งจะเชิญชวนเขามากขึ้นเท่านั้น ต่อให้เศร้า ต่อให้ร้องไห้มากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของเราได้ และเขาก็จะไม่ยอมให้พี่น้องคนไหนมาแย่งเราไปได้ และย้ำเรื่อยๆว่า เราเป็นของเขาเท่านั้น ถ้าไม่...เขาก็จะฆ่าเราซะ..... และ กระซิบต่อว่า ถ้าเรายอมเขา เขาก็จะให้ “ความสุขที่ผู้หญิงต้องการ” กับเรา

หลังจากนั้น โนบุนางะจึงสั่งเราให้ถอดเสื้อ แต่เราก็ยังลังเลอยู่ เขาจึงถามว่า ไม่กล้าถอดเสื้อต่อหน้าเขาละสิ เพราะคงมีอะไรแอบซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้านั้น เขาจึงบอกว่าถ้าอยากให้เขาแสดงความจริงใจของเขา เราต้องเผยความจริงใจให้เขาเห็นก่อน โนบุนางะเริ่มบังคับให้เราถอดเสื้อไวขึ้นด้วยการเอาชักดาบมาตัดเสื้อผ้าเราออก (แต่ไม่โดนเนื้อ) เราจึงยอมถอด แต่เพราะมือที่สั่นจนถอดไม่ได้ โนบุนางะจึงบอกว่าเดี๋ยวเขาจะช่วยเราเอง ก่อนที่จะใช้ดาบตัดออก โดยไม่กลัวว่าดาบจะโดนผิวเราหรือไม่ เมื่อเสื้อผ้าหลุดไปหมดแล้ว เขาก็บังคับให้เอามือที่บังไว้ออกด้วย หรือต้องให้เขาเอาดาบฟันออก (?) เราจึงยอมทำแต่โดยดี

สักพักโนบุนางะก็เข้ามาสัมผัสที่ตัวเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ซ่อนอะไรเอาไว้ แต่ยิ่งสัมผัสเขาก็ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น เขาให้เราลองเชิญชวนเขา เราก็ถามว่าทำยังไง เขาก็บอกให้เราใช้สมองดูสิ “จะทำอย่างไรให้เจ้านายของเขาพอใจ?” และผลักเรา เราก็เลยร้องไห้ออกมาอีก เขาก็บอกว่าจะร้องไห้ทำไม ทั้งๆที่บอกไปเมื่อกี้ว่าให้เราทำอะไรก็ได้ให้เจ้านายพอใจแท้ๆ แต่ว่าเขาก็จะละเว้นให้ แต่ถ้าหากทำท่าน่าสังเวชแบบนี้อีกละก็....//ชักดาบ แล้วเขาพูดออกมาว่า เราเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้เขาชนะพวกน้องๆของเขาได้ และเข้ามาลูบไล้ร่ายกายของเราอีก แต่ทุกครั้งที่เขาสัมผัสเรา เราก็สะดุ้งเรื่อยๆ โนบุนางะยิ้มอย่างพอใจ เขาบอกว่าอาการแสดงความกลัวของเราสามารถเติมเต็มด้วยการเสียท่าให้เขาแค่นั้นก็พอแล้ว เพราะยิ่งเรากลัว เขาก็ยิ่งจะสลักความมีตัวตนของเขาให้กับเราไปเรื่อยๆจนทุกซอกทุกมุม ทั้งตัวและหัวใจ เอาให้เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขาเลย....

Track 3 絶体絶命 เข้าตาจน


แต่ในขณะที่อะไรกำลังจะดำเนินต่อไป เราทั้งสองก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คนรับใช้นั่นเอง เราถามว่าต้องออกไปเปิดรึเปล่า โนบุนางะบอกว่าไม่จำเป็น หรือถ้าจะไปก็ไม่ว่าอะไร แต่เขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมา มันอาจจะสนุกก็ได้ เขาจึงสั่งให้เราเดินไปที่หน้าประตู แต่ ! ต้องเดินไปทั้งที่ยังที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ตอนแรกเราไม่ยอม แต่เพราะโนบุจะชักดาบออกมา เราจึงยอมแต่โดยดี พอเราเดินไปที่หน้าประตู โนบุก็เดินตามเรามาด้วย และกระซิบให้เราถามคนรับใช้ว่าต้องการอะไร แต่ถ้าขอความช่วยเหลือละก็อย่าหวังเลย และถ้าเราขัดคำสั่งเขาละก็....เขาก็ชักดาบออกมาอีก (ไอ่นี่แม่มชักดาบตลอด 5555+) และบอกว่าคมดาบอาจจะตรงมาที่คอของเราก็เป็นได้ โนบุนางะหัวเราะเล็กๆ และกำชับให้เรายอมรับสิ่งที่เขาทำเสีย....

หลังจากคุยกับคนรับใช้(ผ่านประตู)ได้สักพัก เราก็มาบอกโนบุว่าคนรับใช้จะเอาน้ำมาให้ โนบุก็พยักหน้าและบอกว่าหลังจากพิธีไปแล้ว คออาจจะแห้งก็เป็นได้ ฝากให้เราไปบอกคนรับใช้ว่าเขาเอา”ลาเต้ชาเขียว” และหากทำน้ำไม่ถูกปากเขามา เขาจะฆ่าทิ้งทันที และย้ำอีกว่าถ้าหากเราขัดคำสั่งเขา ถ้าตอนนี้เขาเปิดประตูออกไป คนรับใช้ก็คงจะเห็นเราในสภาพตอนนี้แน่นอน แต่ไว้ใจได้ เพราะคนรับใช้ที่ได้รับการฝึกฝนแล้ว พอเขาเข้ามาในห้อง ไม่ว่าจะเจออะไรเขาก็ต้องทำเป็นไม่สนและมองผ่านอยู่แล้ว และอยู่ดีๆโนบุก็คิดอะไรแปลกๆออกมาอีก เมื่อเขาตั้งใจให้เรากลายเป็นคนรับใช้แทน (ไอ้นี่สัปดนเว้ย ตรูหนาว 555+ -- คนรีวิว) เพราะถ้าเรากลายเป็นคนรับใช้แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องจ้างคนใช้อีกต่อไป

แต่แล้วโนบุนางะก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน เขาเลื่อนมือมาสัมผัสร่างกายของเราอีก และ ถามว่าตอนนี้ “อยาก” มากใช่ไหมละ ? และให้เราลองสัมผัส(....)ด้วยตัวเอง และถามว่าตอนนี้มันเป็นยังไง ? สัมผัสไปเรื่อยๆก็ถามเรื่อยๆว่าสิ่งนี้มันคืออะไรบ้าง และบอกว่าเรานี่มองยังไงก็เป็นผู้หญิงที่สกปรกและสัปดนจริงๆ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้รังเกียจผู้หญิงแบบนี้นัก เพราะว่าจะได้ทำอะไรสนุกๆกันเยอะหน่อย โนบุนางะบอกให้เราเผยความต้องการออกมา และ คุกเข่าขอร้องเขา หากเราต้องการจะเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว ก็ต้องยอมรับชะตากรรมนี้ไว้ด้วย เขามองหน้าเราและถามว่าที่เราทำหน้าแบบนี้เพราะต้องการเขามากสินะ แต่มันก็ไม่แปลก เพราะเขาเป็นผู้ชายที่โลกได้กำหนด(ให้มาเป็นคู่เรา)มาพอดีอยู่แล้ว

Track 4 落花流水 รักร่วมกัน

หลังจากนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา โนบุก็ให้เราเดินไปตรงหน้าเขาและให้เราคุกเข่าลง และ ถอดเสื้อผ้าของเขาออก (ถอดหมดเลยหรือถอดแค่กางเกงนี่คนรีวิวก็ไม่แน่ใจนะเคอะ 5555+) เราก็ทำตาม แต่แค่ถอดไปแค่กางเกงเท่านั้น โนบุก็บอกว่าถอดแค่นี้ไม่พอหรอก (ต้องถอดให้หมด) เมื่อถอดออกหมดแล้ว เขาก็ถามว่าร่างกายเขากำยำถึงขนาดกลืนน้ำลายเลยไหม? เราก็หน้าแดงพยายามหลบตา โนบุจึงบังคับให้เราจ้องไปที่ร่างกายของเขา ถ้าขัดขืนเขาจะไม่ยกโทษให้ และ โนบุก็ให้เรายื่นมือออกมาสัมผัสเขา เราก็ทำตาม ทำไปเรื่อยๆเขาก็ครางเล็กน้อย และ บอกว่าแค่ใช้มือไม่พอหรอก (ใช้ปาก ??) ให้เราเชิญชวนเขาให้มากกว่านี้ และเมื่อทำไปเรื่อยๆ เขาก็บอกว่าเราช่างร้อนจริงๆ (ปากร้อนสินะ โดนลวกมา 5555)

แต่เราก็ทำๆหยุดๆ ด้วยความกลัว โนบุจึงบอกให้เราหยุด และ บอกว่าคิดว่าทำแบบนี้ มันจะทำให้เขามีใจทำให้เราเต็มอิ่มหรือยังไง ? แต่เขาก็ตัดบทและบอกว่าเขาไม่สนใจแล้ว ต่อไปจากนี้ให้เราเตรียมรับตัวเขาได้เลย ไม่ทันคาดคิด โนบุก็ผลักเราลงบนเตียง และตามประกบ เขาก็ถามว่ากลัวทำไม ทั้งๆที่เราก็หนีไปไหนไม่พ้นอยู่แล้ว ให้เราอยู่เฉยๆและยอมเป็นของเขาแต่โดยดีดีกว่า และเราก็คงไม่อยากให้ถูกเขาเกลียดด้วย แล้วโนบุก็บังคับให้เราอ้อนวอนเขา เราก็ทำตามที่เขาบอก โนบุก็ยิ้มพอใจ โดยบอกว่า ทุกอย่างของเราเป็นของเขา และคนที่กำหนดชีวิตของเราไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเขา เท่านั้น !
หลังจากนั้นโนบุก็สัมผัสเราอีกครั้ง ทำให้เขารู้ว่าร่างกายเรากำลังเรียกร้องเขาอยู่ด้วยความร้อนในร่างกายที่ส่งผ่านมายังปลายนิ้วของเขา ทั้งที่เราพยายามปฏิเสธ แต่โนบุก็สัมผัสเรื่อยๆ และบอกว่าทั้งๆที่ร่างกายเราก็เป็นแบบนี้แล้วยังจะแก้ตัวอีก แต่ไม่นาน ปลายนิ้วที่รุกล้ำไปทั้งร่างของเราก็หยุด และ สังเกตว่าเราเริ่มยอมรับเขาทั้งกายและใจแล้ว เขาจึงเริ่มดำเนินพิธีต่อไปทันที (โดยขอตั้งชื่อว่าช่วง สะโพกพัง 5555+)

โนบุกระแทก(สะโพก)เข้าหาเราไม่นับครั้งและพร่ำว่าในที่สุดเราเป็นของเขาจนได้ และ เขาจะแบ่งความสุขให้กับเรา และให้เราชิมรสความสุขจากเขาให้สมใจ ขยับไปเรื่อยๆ เขาก็ยิ่งเพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากของเขาก็จูบที่ริมฝีปากที่เขาบอกว่าแสนหวาน และ จูบไปเรื่อยๆ พร่ำไปเรื่อยๆว่าเขาจะทำให้เราได้รับรู้ถึงความสุขให้มากขึ้นไปอีก เราเริ่มร้องไห้ เขาจึงบอกว่าร้องไห้แบบนี้เขาไม่ยกโทษให้หรอก ก่อนที่จะหยุดทำ และ พาเราออกไปข้างนอก เราก็ถามว่าจะไปไหน เขาจึงบอกว่าเขาจะให้เราไปร้องเสียงดังให้ทุกคนในบ้านได้ยินว่าเราเป็นของเขาแล้ว “ที่ในสวน”

เมื่อโนบุลากเรามาจนถึงในสวนแล้ว เขาก็ผลักเราลงกับพื้น และ บอกว่าเราในท่าแบบนั้นก็ดูดีเหมือนกัน เขาบอกเราว่าต่อให้เราต้องการอะไรเขาจะไม่จัดให้อยู่แล้ว เพราะ เขาจะยกโทษให้เราถ้าเราคุกเข่าอ้อนวอนเขาเท่านั้น แต่เราก็ไม่ยอมทำ เขาจึงเดินมาหาเรา และก้มลงหาเรา บอกกับเราอีกว่าคนที่ไม่เชื่อฟังเขา มันต้องได้รับการฝึกฝนแบบนี้

โนบุเริ่มใช้มือของเขาตีที่บั้นท้ายของเราสองสามครั้ง และหัวเราะ เขาบอกว่านี่หละเป็นบทลงโทษที่ดีที่สุดสำหรับเรา ตีไปอีกเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้เขาเริ่มมีอารมณ์ขึ้นด้วย เพราะผิวของเราเริ่มเปลี่ยนสี เริ่มสั่นไหวด้วยความรู้สึกดี ตีไปอีก ผิวก็เริ่มกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เขาจึงสังเกตว่าเราเริ่มจะเชิญชวนให้เขามา”กิน”เราแล้ว และ เขาก็บอกว่าจะกินเราไม่ให้เหลือเลย

และสะโพกมาราธอนก็เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง กระแทกไปเรื่อยๆโนบุก็บอกให้เราร้องให้ดังขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งขยับก็ยิ่งบังคับให้ร้อง และขู่ว่าหากไม่ทำตามคำสั่ง นั่นหมายถึงว่าเราพร้อมจะยอมตายด้วยดาบของเขา เขากระแทกไปพร้อมกับแลกจูบกลบเสียงของเขาไปด้วย เราก็เริ่มร้องด้วยความเจ็บ โนบุยิ่งพอใจมากขึ้นไปอีก เพราะยิ่งเราร้องก็ยิ่งทำให้น้องๆของเขาและคนในบ้านเห็นเราและเขาตอนนี้ และมันก็จะทำให้พวกน้องๆไม่กล้ายุ่งกับของๆโนบุอีกต่อไปแล้ว โนบุขยับไปเรื่อยๆด้วยความสะใจ เขาหัวเราะดังลั่นเมื่อเห็นภาพเหล่าน้องๆที่จ้องมายังเราทั้งคู่ และแทรคก็จบไป

Track 5 安楽浄土 ดินแดนแห่งความจรรโลง

หลังจากเสร็จพิธียึดคืนแรกที่จะแสนจะหนักหน่วง เรากับโนบุก็กลับเข้ามาในห้อง โนบุดื่มน้ำไปด้วยความพึงพอใจ ที่สิ่งที่เขาต้องการสำเร็จ ทั้งการที่ได้แสดงให้น้องๆของเขาและคนในบ้านเห็นว่าเราเป็นของเขาแล้ว นั่งคุยไปเรื่อยๆ เขาก็สังเกตว่าหน้าเราเป็นสีแดงระเรื่อ ทั้งหู และ คอ โดยเฉพาะคอที่ถูกเขาสลักความเป็นเจ้าของจะมีรอยแดงเป็นพิเศษ และมันก็ทำให้โนบุคิดไปเองว่าเรา “เรายังต้องการเขาอีก” โนบุจึงวางแก้วลง และ บอกว่าเรานี่ไม่เลวเลยนะ และเปลี่ยนไปมาก จากสาวน้อยที่ไม่ตอบสนองกับอะไรเลย เขาขยับเข้ามาหาเราและกระซิบกับเราว่า ตอนนี้เขายอมรับว่า “เขารักเรา” แล้ว เพราะฉะนั้น ต่อแต่นี้ไป เราห้ามนอกใจหรือหักหลังเขาเด็ดขาด ถ้าทำหรือทำให้เขาแครงใจแม้แต่นิด เขาจะฆ่าเราโดยที่ไม่ต้องถามเลย ให้เราจำไว้ให้ดี ว่าเราเป็นของ ของเขา คนที่ทำให้เราดีใจหรือร้องไห้ มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น

เราก็พยักหน้าตอบรับ โนบุก็หัวเราะเบาๆ เขาจึงให้รางวัลกับเรา โดยการ จูบที่ริมฝีปาก จูบไปเรื่อยๆ เขาก็บอกว่าแค่นี้คงไม่พอสินะ เขาจะให้ของที่สุดยอดกับเรา โนบุจึงบรรเลงบทรักกับเราอีก และพร่ำไปเรื่อยๆว่าทุกอย่างของเราเป็นของเขา เขาจึงหวานกับเราแบบนี้ แล้วก็จูบอีกเรื่อยๆ พร้อมกับสะโพกที่ขยับไม่ยั้ง เขาบอกกับเราว่า แค่นี้ก็รู้แล้วใช่ไหม ว่าเขาจะไม่ยอมยกเราให้ใครเด็ดขาด ต่อให้ตายไปตกนรก เขาก็จะตามเราไป หรือถ้าผู้ชายคนอื่นจะมาเอาชีวิตเขาไป เขาก็จะเผาบ้านหลังนี้ และ ตายไปพร้อมกับเรา เราก็หัวเราะ เขาก็พูดแปลกๆว่าน่าขำหรือไง ทั้งๆที่ในสมัยเซนโกคุพูดแบบนี้แล้วจะกลัวกันแท้ๆ หรือว่าเราอยากจะลอง “พังทลาย” ดูบ้าง ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะของเล่นที่ไม่เคยขยับเขยื้อน มันน่าเบื่อจะตาย

แล้วโนบุก็เริ่มขยับสะโพกอีกรอบ และบอกว่าเขาจะสลักตัวตนของเขาลงกับร่างกายของเราให้มากกว่านี้ ขยับไปเรื่อยๆจูบไปเรื่อยๆ พร่ำไปเรื่อยๆ เราก็ขอร้องให้ขยับแรงขึ้นไปอีก โนบุจึงจัดให้ และ บอกว่าจะจัดให้จนกว่าจะถึงวันที่เราจะถูกทำลายไปด้วยกันเลย....

Track 6 ボーナストラック  by Shimazaki Nobunaga

เป็นฟรีทอล์คจาก โนบุนางะ ผู้รับบท โนบุนางะ ค่ะ (เอาแบบนี้นะ...เรียกชิมาซากิแล้วกันนะคะ จะได้ไม่สับสน 555+) โดยชิมาซากิจะเริ่มแนะนำตัวแบบเสียงเท่ห์ๆก่อน และ ค่อยมาแนะนำแบบใช้ดัมมี่ไมค์(กระซิบช้างหู) เขาบอกว่านี่เป็นครั้งแรกของเขาเลยที่ใช้ดัมมี่ไมค์อัดเสียงในช่วงฟรีทอล์ค และนี่ก็บท โดะเอส ที่เขาไม่ค่อยได้พากย์ด้วย ชิมาซากิบอกว่าตอนแรกเขาก็งงๆที่ได้มีโอกาสมาพากย์ตัวละครโนบุนางะ แต่เขาก็สนุกที่ได้มาพากย์บทนี้ เพราะได้พากย์บทนักเรียนมัธยมแต่มีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ถ้าคนฟังชอบบทแบบนี้ของเขา เขาจะดีใจมาก (ชอบดิ พากย์อีกนะ 18+ กรั่กๆๆๆๆ --- คนรีวิว)

แล้วชิมาซากิก็อ่านคำถามแรกจากทีมงานว่า “ฉากที่ประทับใจที่สุดในเรื่องคือฉากไหน ?”  ชิมาซากิก็ตอบว่าก็ชอบทุกฉากนะ แต่ที่เขาตอบสนองก็เป็นฉากปกติที่มีคำว่า “มัจฉะลาเต้” (แทรค 3) ซึ่งเขาก็อยากลองได้ยินเหล่าขุนพลเซ็งโกคุพูดคำว่า ”ฉันเอารอยัลมิลค์ที” ดูบ้าง คำถามต่อไปคือ ส่วนของตัวเองที่เหมือนกับโนบุนางะคืออะไร ? เขาก็บอกว่า ชื่อของเขาที่เหมือนกัน เป็นอันดับแรก แล้วก็ในนักรบเซ็นโกคุชอบใครมากที่สุด ? เขาก็บอกว่า ก็ต้องโนบุนางะสิ

คำถามต่อไปคือ ช่วยบอกความรู้สึกที่ได้พากย์กับดัมมี่ไมค์หน่อย เขาก็บอกว่า ช่วงนี้โอกาสได้พากย์กับดัมมี่ไมค์ก็เยอะมาก แต่ว่ามันก็ดีเพราะดัมมี่ไมค์ก็ทำอะไรได้หลายๆอย่างกับ”หู”ได้ด้วย ปกติเขาไม่ได้ตั้งใจเป่าลม แต่ทางทีมงานก็พูดเสมอว่า “เขาเป็นคนเป่า” อาจจะเป็นเพราะดัมมี่ไมค์ค่อนข้างสูงเพราะฉะนั้นก็ต้องระวังด้วย แต่เขาก็สนุกสนานกับการพากย์และการพูดว่า ฉันรักเธอ ด้วย (เห้ยยยยย *0*)

สุดท้าย เป็นข้อความที่ต้องการจะมอบให้โอโตเมะที่ฟังอยู่ ชิมาซากิจึงไปหยิบบทมา (โห โพยๆ 555+) และ ขยับเข้าไปใกล้ดัมมี่ไมค์ และพูดว่า “ขอบคุณมากที่อุดหนุนแวงกิช บราเทอร์ส ผมดีใจมากที่คุณได้ฟัง เสียงของพวกคุณที่เชียร์ว่า ได้ดูแล้ว หรือ ได้ฟังแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผมดีใจและมีกำลังใจในการพากย์มากขึ้น ขอบคุณจริงๆ และเพราะคุณทำให้ ชิมาซากิ โนบุนางะ ได้มาถึงจุดนี้ในฐานะผู้รับบท และฝากตัวในโอกาสต่อไปด้วย และผมจะพยายามทำงานเพื่อให้คุณมีความสุขแม้เพียงเล็กน้อย ขอบคุณมากครับ (ขอบคุณเยอะจริง 5555+) ก่อนที่จะกล่าวจบไปด้วยการบอกว่า “พบกันใหม่ที่ไหนสักที่”

จบแล้วจ้า !!!!!!!!!!!!

- พูดคุยก่อนจบเอนทรี่จ้ะ -
แปลมานี่ รู้สึกทุกแทรคจะยากเหมือนกันหมดเลยนะ TT เพราะ หนุ่มในซีดีมันเป็นหนุ่มนักเรียนม.ปลายในปัจจุบัน แต่ดันสวมวิญญาณนักรบเซ็นโกคุซะงั้น... คำพูดก็เลยดูโบราณไปเลย ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็สามารถคอมเม้นหรือส่งเมสเซจมาแก้ได้เลยนะคะ เดี๋ยวจะรับไว้พิจารณาอีกทีค่ะ (ช่วยกันทำมาหากินนะต๊ะ คริกๆๆๆๆ ปุริ...) ส่วนสาวๆที่สงสัยว่าทำไมเนื้อเรื่องมันถึงประหลาดๆ คือ จะขอตอบว่า เพราะ เนื้อเรื่องเซตให้อยู่ในปัจจุบันทั้งหมดค่ะ แต่ตาพี่น้องมีชื่อนักรบเซ็นโกคุเนี่ย บ้านเค้าดูจะโบราณๆหน่อยไง แบบว่าท่านพ่อทิ้งสมบัติไว้ให้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเอานางเอกที่เป็นเจ้าหญิงมาเป็นเจ้าของให้ได้ ประมาณนี้ ตาโนบุนางะ คีย์เวิร์ดเขามันก็บอกอยู่แล้วอะนะว่า “โดะเอส” “สั่งสอน” “คิจิคุ(โฉด)” ก็...ไม่ต้องแปลกใจที่ตาโนบุจะทั้งตี ทั้งกระแทกใส่เราไม่ยั้งนะเคอะ 55555555555555555+

เจอกันเอนทรี่หน้าค่ะ !!! ปุริ

ปล. โวลุ่มสองตาชินเก็งแล้วนะ มาดูหนุ่มที่มองตาแล้วท้องดูบ้าง เสียงคักกี้ด้วย ตัวละครไม่ต้อง เสียงคักกี้ก็ขาดใจแล้ว 55555+

Wednesday, November 6, 2013

[เกือบจะได้สาระ] ว่าด้วยเรื่องเกมจีบหนุ่ม Prince of Tennis Gakuensai & Doki Doki Survival


สวัสดีค่ะ แหม่....ห่างหายจากบล๊อคไปนาน (นานที่ไหน วันก่อนเอ็งยังมาลงรีวิวซีดีอยู่เลย กรั่กๆๆๆๆ -- คนอ่าน)

เราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงรู้จัก Prince of Tennis กัน บางคนอาจจะเคยอ่านการ์ตูนหรือดูอนิเมะ

ตัวเราเองยอมรับว่ารู้จักซีรีย์นี้มาได้เกือบปีแล้ว แต่ช่วงนี้ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองบ้าพลัง กลับไปดูอนิเมะตอนเก่าๆ + ตามเก็บกาชาปองก็ไม่รู้ แถมพอรู้ว่า คักกี้ ได้พากย์อนิเมะเรื่องนี้ (ถึงจะพากย์เป็นตัวประกอบก็เถอะ) ใจมันก็เต้นตุบๆจนอยากดูเลยหละ 55555555+

ส่วนเกมซีรีย์นี้ออกมาหลายเวอร์ชั่น แล้วก็หลายภาค จนจขบ.ก็มึนไปเหมือนกัน แต่ก็เลือกมาเล่นเพียง 2 เวอร์ชั่นเท่านั้น (แอบเสียดายคักกี้ไม่มีนี่ดิ โฮววววววว) และเป็นเกมลงเครื่อง Nintendo DS ทั้งคู่ด้วย ภาคที่ว่านั้นก็คือ !!!

Tennis no Ouji-sama Motto Gakuensai no Oujisama (ขอเรียกสั้นๆว่า กักคุเอนไซ)
กับ
Tennis no Ouji-sama Gyutto! Doki Doki Survival Umi to Yama no Love Passion (เรียกสั้นๆว่าโดคิละกันนะ)

เป็นเกมที่ชื่อยาวที่สุดเท่าที่เคยฟังมาเลยนะเนี่ย เมื่อก่อนจะชอบตัวละครอยู่แค่ 2 ตัว คือ ชิไรชี่ กับ บุนจัง เท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ พอได้ดูอนิเมะ + เล่นรูทคนอื่นที่ไม่ใช่สองคนนั่นแล้ว ก็มีความรู้สึกว่า ชักจะมีฮาเร็มเพิ่ม 55555+ (ยิ่ง”จน”เพิ่มขึ้นด้วยมั้ง ตัวละครที่ผ่านรูทมา รู้สึกว่าจะได้รับความนิยมทุกตัวเลย เหอๆ)

คนแรกเลยที่จีบคือ Shiraishi Kuranosuke

เจ้าของประโยค “โอ้วววว เอกซ์ตาซี่ย์ !!!” พ่อหนุ่มกัปตันเจ้าของฉายา ไบเบิลแห่งชิเทนโฮจิ ตานี่ยอมรับว่าปิ๊งเพราะ “โฮโซยัน” พอเห็นว่าโฮโซยันพากย์ก็เลยทำความรู้จักนายนี่เป็นคนแรกเลย เกมทั้งสองภาคจะมาแนวเดียวกัน คือ ชอบคุยเรื่อง”พืชมีพิษ”มาก (ขนาดไปเดทในภาคกักคุเอนไซยังพาไปดูพืชมีพิษเลย - -*) แต่ฉากที่ชอบมากสุดในกักคุเอนไซคือ ฉากฟ้าผ่าแล้วนางเอกวิ่งไปกอดชิไรชี่ แล้วชิไรชี่ก็ถามว่า “ใช้แชมพูอะไร?” อ๊ากกกกกกก ทำไมคำถามแค่นี้ถึงทำให้คนเล่นอย่างดิฉันใจละลายขนาดนี้นะเนี่ยยยยยยยย (>////<) ชิไรชี่นี่รู้สึกจะเป็นผู้ชายที่เข้าหาง่ายดีนะ คิดว่าเพราะเหตุนี้ชิไรชี่ถึงได้รับความนิยมจากแฟนเกิร์ลเทนิปุริมาก + โฮโซยันไปด้วย เรตติ้งระเบิดตู้มเลย *0*

ส่วนภาคโดคิ ฉากที่ชอบจะเป็นตอนจบ (จริงๆก็ชอบหมดอะ 5555+) ที่ชิไรชี่ชวนเราอยู่ต่อทั้งๆที่เราจะขึ้นรถไฟกลับบ้านอยู่แล้ว แล้วเราบอกว่า “คุราโนะสุเกะซังโกวอิน” (คุราโนสุเกะซังชอบรุกจริงๆเลยนะ) แต่ชิไรชี่ก็ตอบกลับมาว่า “ซนนะโอเระโมะสุคิดาโร้ว” (ก็เธอชอบฉันแบบนี้เหมือนกันใช่มะ) จ๊ากกก รู้ได้ไง 5555+ ชิไรชี่คะ ถ้าเกมเทนิปุริทำเป็นเกม 18+ ได้ หรือ Cero สูงขึ้นมาอีกหน่อย บอกนะ อยากเห็นชิไรชี่โหมดหื่นมาก 555555555+

คนต่อมาที่เราจีบคือ Marui Bunta

หนุ่ม เทนไซเทคิดาโรย ผู้ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อคลายเครียด แห่งโรงเรียนสาธิตริคไค ตานี่ก็ยอมรับว่าชอบเพราะ “นาโอะซัง” พอมารู้จักแล้วก็ชอบมากขึ้นด้วย บุนจังนี่น่าจะเป็นผู้ชายที่จีบง่ายในชีวิตจริงๆนะ เพราะชอบคนที่ “เอาของกินมาให้” ทำให้จขบ.จิ้นกระจายว่าถ้ามีหนุ่มเอาของกินมาให้บุนจัง บุนจังจะรับรักป่าวนะ 555555+ ในภาคกักคุเอนไซ วันๆเจอบุนจังทีไรก็จะถามทุกทีว่า “มีของกินไหม?” จนบางทีก็ทำให้คิดว่า “นางเอกคงจะเป็นหน่วยส่งส่วยสินะ” บุนจังนี่เท่าที่จีบมารู้สึกจะเป็นผู้ชายที่คุยง่ายรองต่อมาจากชิไรชี่เลย แถมยังน่ารักในหลายๆมุมอีกด้วย

ในภาคโดคิ เนื่องจากไปติดเกาะ ไม่ค่อยมีอะไรให้กิน นางเอกก็ยังแสนดีหาวิธีทำของกินให้บุนจังกินอีก (นางเอกเกมนี้ช่างเทนไซเทคิจริงเว้ย คนเล่นยังนึกไม่ถึงเลย...) ฉากที่จขบ.ชอบในรูทบุนจังคือ ฉากที่บุนจังสู้ฉลาม(หุ่นยนต์)อะ จริงๆจะบอกว่า เท่ห์ดีนะ แต่ทำไมเราถึงรู้สึกว่า มันน่ารัก มากกว่า จะบอกว่าบุนจังไม่ได้หล่อ ไม่ได้เท่ห์ แต่น่ารักมากกว่า เลยทำให้ชอบบุนจังมากๆ รวมเสียงนาโอะซังเข้าไปด้วย ถ้าไม่ชอบชิไรชี่ที่สุด บุนจังก็อันดับ 1 ในเทนิปุริเลยหละ 55555+

คนที่สามที่เราจีบ Tooyama Kintarou

ไม่คิดใช่มั้ยว่าเราจะจีบคินจัง 55555+ ไม่รู้สิ ในภาคโดคิคินจังจะติดสอยห้อยตามชิไรชี่ตลอด (ให้ความรู้สึกชิไรชี่เป็นคุณแม่ของคินจังเลย 5555+) จริงๆคินจังดูจะเป็นเด็กหนุ่ม อุรุไซ (หนวกหู) มาก เจอทีไรก็โวยวาย “ชั้นหิววว” ทุกที และด้วยความใจดีกับคินจังของนางเอกนี่เอง ทำให้ค่าความชอบของชิไรชี่มันสูงขึ้นด้วย (สูงขึ้นจริงๆนะ ถึงจะเป็นในรูทของคินจัง) เล่นรูทคินจังนี่อดไม่ได้ที่จะต้องแวะเวียนไปหาชิไรชี่เพื่อถาม”ข่าวลือ”ตลอด แล้วพอเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ คินจังจะเริ่มแสดงอาการ “หึง” นางเอกออกมาอย่างได้ชัด แต่คินจังก็ลูกผู้ชายมากๆ เพราะให้นางเอกขึ้นหลังตั้ง 2 ครั้งแหนะ และ เป็นหนุ่มน้อยที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคกั้นขวางง่ายๆด้วย

ปล. รู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าคนที่พากย์คินจังเป็นผู้หญิง แต่คนที่เราไม่คิดเล้ยยยย ว่าคนพากย์จะเป็นผู้หญิง คือ.....

คนที่ 4 ที่เราจีบ Fuji Shuusuke

พ่อหนุ่มรุ่นพี่เทนไซ(อัจฉริยะ) แห่งเซย์กาคุ คนนี้ก็เล่นจบทั้งสองภาคแล้วเหมือนกัน เพิ่งมารู้เอาตอนที่เล่นภาคโดคิจบอะว่าคนพากย์คือ ไคดะ ยูกิ ซัง ผู้หญิงนะค๊า แอ่กกกกกกก ยอมรับว่าเล่นจบแล้วหลงฟุจิไปเลยจริงๆ ฟุจิทั้งสองภาคจะเป็นเหมือนกันคือ อ่อนโยน ชอบกินของหวาน แถมยังปากหวานอีกต่างหาก และคำคมของฟุจิในภาคโดคิคือ “ฉันไม่ได้เป็นอัจฉริยะด้านเทนนิส แต่ฉันมีพรสวรรค์ที่จะฮึดสู้ต่างหาก” แล้วพอมาดูอนิเมะ OVA ที่แข่งกับชิไรชี่ มันก็ทำให้เราเข้าใจความหมายที่ฟุจิพูดในเกมเลย เออ มันเป็นแบบนั้นจริงๆด้วย ต้องพยายามสิเนอะ....

ส่วนในภาคกักคุเอนไซ ก็ทำให้เรารู้อะไรเพิ่มเกี่ยวกับฟุจิ ฟุจิชอบต้นตะบองเพชรมาก แถมยังเอาต้นตะบองเพชรที่เขารักมาให้เราเลี้ยงดูต่ออีก (เออ ยูกิมุระก็ชอบทำสวน อุอุอุ เข้ากันได้เลยนะสองคนนี้) ส่วนฉากที่ชอบจะเป็นฉากที่ฟุจิจับมือแล้วชมว่า “มือเธอสวยจัง ฉันชอบมือที่ทำโน่นทำนี่แบบนี้นะ” อ๊ากกกกกก ฉันเข้าไปอยู่ในเกมฉันคงเขินตาย (โดดปล้ำเลยดีกว่า 555+ --- หื่นหวะ) ว่าแต่ ยิ้มอยู่อย่างนั้นตลอด ไม่เมื่อยมั่งเลยหรือไงเนอะฟุจิ 55555555+

คนที่ห้าที่เราจีบ Yukimura Seiichi

ยูกิมุระ กัปตันทีมริคไค ในภาคโดคิจะเป็นช่วงหลังจากที่ยูกิมุระออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนกักคุเอนไซยังไม่ได้เล่นนะเคอะ เพราะต้องจบริคไคคนใดคนหนึ่งก่อน ถึงจะจับ เอ้ย จีบยูกิมุระด้วย อือม ตอนแรกที่เล่นยูกิมุระก็ไม่ค่อยได้ชอบอะไรเท่าไหร่นะ ก็เล่นไปเรื่อยๆ แต่พอกลางเรื่องที่คุยกันเรื่องที่ยูกิมุระอยู่ในโรงพยาบาล ยูกิมุระเล่นเล่าให้ฟังแบบว่า “ตอนฉันอยู่โรงพยาบาลนะ ฉันเห็นคนที่พยายามมีชีวิตรอด แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเหลว ทำให้ฉันคิดว่าการมีชีวิตอยู่มันเป็นสิ่งมีค่า และต้องใช้ชีวิตให้มีค่าทุกวันให้ได้เลยหละ” แล้วก็มีคำพูดอื่นๆซึ่งจำไม่ได้แล้ว แต่ก็แนวๆนี้หละ แต่เราก็คิดว่า ยูกิมุระนี่เป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ ตอนสารภาพรักก็พูดว่า “ฉันไม่อ้อมค้อมละนะ ฉันชอบเธอ คบกันเถอะ” แบบ เหอ...คนอื่นนี่เค้าเท้าความยืดยาว (ชิไรชี่ก็พูด ชั้นนี่นะไม่เค๊ยไม่เคยกับเรื่องความรักเลย และบลาๆๆๆ กว่าจะเข้าเรื่องได้ 555+)  ยูกิมุระนี่สั้นดีจริงๆ 555+ ทำให้จบเกมก็หลงรักยูกิมุระไปอีกคนเลย แล้วมันได้อารมณ์มากเวลาดูอนิเมะ เข้าใกล้ยูกิมุระมากขึ้นจริงๆเมื่อได้เล่นเกม + ดูเมะ



ปล. เราแอบเข้าใจผิดว่าเซย์ยูที่พากย์ยูกิมุระเป็นหนุ่มเคะด้วยหละ คล้ายๆ 55555555+

ห้าคน...โอเคปะ จริงๆมีอีกคนนะ 55555555+ เบื่อยังอะ ???

คนที่หกที่กำลังจีบเขาอยู่ในภาคกักคุเอนไซ....
Niou Masaharu

จอมหลอกลวง (แล้วมันก็ชอบแกล้งเราเรื่อย แง่บๆ) เจอกันกับนางเอกทีไร ต้องขยี้หัวทุกที 55555+ ในภาคกักคุเอนไซ นิโอ้จะเป็นรุ่นพี่ของนางเอก(บุนจังก็ด้วยนะ) แต่ในภาคโดคิเนื่องจากไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน ไม่รู้ว่าอายุจะเท่ากันหรือไม่ ก็เลยเรียก “นิโอ้ซัง” แทน ขอเม้าซะหน่อยว่าตานี่ ชอบแกล้งคนอื่นในคอร์ทเทนนิสไม่พอ ยังชอบแกล้งสาวด้วยอะ แกล้งนี่ไม่ได้แกล้งธรรมดา แต่แกล้งแบบ”หน้าตาเฉย”มากๆ อย่างในภาคโดคินี่ ไปบอกนางเอกตอนกลางคืนว่าอยากกินโน่นนั่นนี่ นางเอกที่มาน “ชั้นทุ่มสุดตัว” อยู่แล้ว ก็ลงทุนเข้าป่าไปหาของมาทำให้นิโอ้กินเลย จนหลงทางในป่า ถ้านิโอ้ไม่ตามมาเจอ(เพิ่งรู้ตัวเรอะ) ก็คงจะไม่ได้เจอฉันอีกแล้ว 555555+

ส่วนในภาคกักคุเอนไซก็ไม่ธรรมดา มีอยู่ครั้งนึงที่นิโอ้ต้องเข้าไปจัดของในโกดังกับนางเอก แต่นิโอ้ก็บอกว่าเหนื่อยเลยขอออกไปพักผ่อน...... ไปพักผ่อนจริงๆนะแต่ พักผ่อนจนเผลอหลับไป ปล่อยให้นางเอกที่เก็บของในโกดังอยู่คนเดียว เจอความร้อนมากเกินไปจนเป็นลม พอนิโอ้กลับมาอีกทีก็เห็นว่านางเอกสลบไปแล้ว เป็นต้น แต่พูดแบบนี้ นิโอ้ก็มีมุมตลกเหมือนกันนะ คือนิโอ้เนี่ย ขี้อายมากๆ มีฉากนึงที่นิโอ้ปรึกษาเรื่องเรา กับยะกิว ยะกิวบอกให้นิโอ้ บุกโจมตีนางเอกเลย แต่นิโอ้บอก “ฉันไม่กล้าอะ” ฉากนี้ทำขำแทบตาย แล้วก็อีกฉากที่นิโอ้จะบอกรักนางเอก ยังต้องให้นางเอกหันไปข้างหลัง แล้วกอดแล้วบอกรัก แหม่ ขี้อายจริงๆนะพี่น้อง ตอนแรกเรานึกว่านิโอ้จะนิสัยแบบลุยๆไม่กลัวเสียหน้าซะอีก แล้วก็มีอีกฉากอันนี้ของภาคโดคิ ที่เราไปสืบข้อมูลมาว่านิโอ้ชอบสาวฉลาด มีไหวพริบ แต่นิโอ้บอกว่า เมื่อก่อนเขาก็คิดแบบนี้ แต่พอเขาได้มาอยู่ที่นี่แล้ว เขาก็คิดได้ว่าไม่ว่าสเปคของเขาจะเป็นแบบไหน ถ้าเขาชอบซะอย่าง ถึงเธอคนนั้นจะไม่มีคุณสมบัติที่เขาต้องการ มันก็ไม่สำคัญ อันนี้เราก็คิดว่าแฟร์ดีนะ เพราะสเปคมันก็แค่ความคิด ในชีวิตจริงยังไงเราก็ต้องเลือกคนที่ถูกใจเรามาก่อนแม้ว่าจะไม่ตรงเสปคก็ตาม อยู่แล้วหละ...



=========================

โม้นิโอ้ซะยาวเลย ขอเพิ่มเติมอีกนิด พูดถึงตัวเกมบ้าง เกมนี้เสียดายมากที่เรทแค่ Cero A เพราะอยากเห็นอะไรที่มากกว่านี้ กรั่กๆๆๆๆ แต่ยังไงก็ชอบเกมของค่ายโคนามิ เพราะซีจีมันทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าได้เป็นนางเอกจริงๆนั่นหละ เพราะจะมองไม่เห็นหน้านางเอกเลย แล้วก็ในซีจี ใบหน้าของหนุ่มคนนั้นจะซูมชัดแจ๋วแว๋วมาก เหมือนเขากำลังจะทะลุออกมาจากในจองั้นหละ *0* แต่ว่า...อยากได้ Cero ที่มันสูงกว่านี้จริงๆนะ 555555555+


คำเตือน : ทั้งหมดที่ว่ามานี้มาจากความทรงจำล้วนๆนะ ไม่ได้เปิดเกมไปด้วยเล่นไปด้วยแต่อย่างใด

ใครเคยเล่นหรืออยากเม้า คอมเม้นได้เลยค่า !!! จะคอยอ่านนะ...

ไปแบ้วก้า !!!!!!!!!!!!!!!!!!! ปุริ...