Thursday, October 31, 2013

[Review] Kareshi Igai Type D:Y Kare no Ani tono Ayamachi


- พูดคุยก่อนรีวิวกันหน่อยนะคะ -
ได้ไฟล์มาเมื่อวานซืน (ใครได้วันเดียวกะเราบ้าง กรั่กๆๆๆๆ) จริงๆอยากได้แผ่นแท้นะ แต่เดือนนี้ตังช็อตเพราะเอาไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า (แก้ตัวนี่หว่า) อ่าๆๆๆ ยังงัยก็ตาม เดือนหน้าก็จะจองซีดีคักกี้ละนะ....

โปรดระวัง :  เนื้อหา 18+ ถ้าเป็นฉาก 18+ เราจะป้ายสีขาวๆไว้นะคะ ถ้าอยากอ่านก็แบล๊คคุมกันเอาเองนะคะ


[Drama CD] 彼氏以外 Type D:X  彼の兄との過ち
CV. 桜ひろし (มาเอโนะ โทโมอากิ)
Release Date : 25 October 2013
ผลิตโดย : Cineria
Rate : 15+ (เหมาะสำหรับผู้ฟังอายุ 15 ปีขึ้นไป) (แต่ตอนนี้คนรีวิวแนะนำสำหรับคนอายุ 18 ปีขึ้นไปฟังนะคะ...)
อุปกรณ์เสริม : Dummy Head Microphone


ตัวละคร
Okada Ryouichi CV. Maenon เอ้ยยยย Sakura Hiroshi
นางเอก CV. คนฟัง
น้องชายของเรียวอิจิ, แฟนของนางเอก CV. ไผวะ 5555+



ปล.เราขอแทนตัวนางเอกเป็นคำว่า “เรา” นะคะ คนอ่านจะได้จิ้นตัวเองไปด้วย 555555+

Track 1 弟の恋人 แฟนของน้องชาย

แทรคนี้เป็นแทรคเกริ่นนำของเรียวอิจิ เขาบรรยายถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเจอที่คาเฟ่ เธอใส่ผ้ากันเปื้อนธรรมดา ผมที่รวบไปไว้ข้างหลัง แล้วก็ที่คาดผม ซึ่งไม่ต้องใส่เธอก็สวยอยู่แล้ว นิ้วเรียวนั้นวางถ้วยกาแฟตรงหน้าเขา เขาบอกตามตรงว่าที่เขามาที่คาเฟ่นี้บ่อยๆเพราะอยากจะเห็นแต่รอยยิ้มเธอคนนั้น และก็ยอมรับว่าเขาชอบเธอมาก แต่ที่เขาไม่บอกเธอไป...เป็นเพราะว่า เธอคนนั้น เป็นแฟนของน้องชายของเขาเอง....

Track 2 お気に入り พึงพอใจ

แทรคนี้เป็นแทรคก่อนที่เรียวอิจิจะได้รู้ว่าเราเป็นแฟนของน้องชายของเขา เขาเดินเข้ามาในร้าน และเราก็ต้อนรับรวมถึงรับออเดอร์เขาตามปกติ  เรียวอิจิสังเกตว่าวันนี้คนน้อยผิดปกติทั้งๆที่ปกติคนก็เยอะ แต่ก็มานึกออกว่าเขามาเร็วกว่าปกติ แต่เขาก็แก้ตัวว่าที่เขามาเร็วเพราะเดี๋ยวจะต้องไปประชุม และเขาก็บอกอีกว่า แม้เป็นวันหยุดเขาก็ไม่คิดจะไปที่อื่นเพราะที่นี่อาหารอร่อยที่สุด
ในเวลาต่อมา ในขณะที่เรากำลังเดินอยู่เราก็เกิดเดินตกท่อน้ำ (ลองนึกสภาพใส่ส้นสูงแล้วเดินตกท่อน้ำดิ 5555+) และเรียวอิจิที่ผ่านมาก็เดินมาช่วยพอดี เราก็บอกว่าเราไม่เป็นอะไรมาก เขาจึงถามว่าทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ แล้ววันนี้ไม่ทำงานหรือไง เราตอบว่าเพราะวันนี้เป็นวันหยุด เขาเลยพยักหน้าและบอกว่าวันนี้เขาต้องไปทำธุระที่อื่น ก็เลยไม่ได้แวะร้านเหมือนกัน และบอกว่าได้เจอกันแบบนี้มันช่างบังเอิญจริงๆ
หลังจากนั้นเรียวอิจิก็ชวนเราไปเดินเล่นกัน เพราะเหลือเวลากว่าจะได้ทำธุระอีกเยอะ เราก็ตกลง เขาจึงชวนเราไปร้านเค้กที่อยู่แถวนั้น...
หลังจากสั่งเค้กเสร็จ เขาก็แนะนำให้เรารู้จักชื่อเขาว่า “โอคะดะ เรียวอิจิ” เราก็เริ่มคุ้นๆชื่อว่านามสกุลคล้ายๆคนรู้จัก เขาก็เลยบอกว่าอาจจะบังเอิญก็ได้ (นามสกุลโหล กรั่กๆ) เราก็แนะนำชื่อเราบ้าง เขาก็ชมว่าชื่อเพราะดี เราก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะเคยแต่ยืนรับออร์เดอร์ เขาก็เลยเข้ามาใกล้ชิดกับเรา เลยเก้อเขินกันไปทั้งคู่ แล้วเขาก็ถามอีกว่าเราทำงานที่คาเฟ่นั้นมานานแค่ไหนแล้ว เราก็ตอบว่า 1 ปี เรียวอิจิเลยนึกออกว่าร้านนี้เปิดมาก่อนที่เขาจะเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้อีก และที่รู้จักคาเฟ่นั้นได้เพราะเพื่อนชวน หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องเหตุผลที่ชอบคาเฟ่นั้น สุดท้ายเขาก็สารภาพว่าเขาชอบทุกอย่างแต่ที่ชอบที่สุดคือ “พนักงานที่นั่น” เราก็หัวเราะ เขาก็บอกว่าอย่าหัวเราะสิ อุตส่าห์ตอบแบบจริงใจ แต่บทก็ต้องตัดไป เมื่อพนักงานเอาเค้กมาเสิร์ฟ
หลังจากทานเค้กเสร็จ เราก็ขอบคุณที่เขาเลี้ยงให้ เขาก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก แต่เขาก็หลุดคำว่า “โอเระ” ออกมาบ่อยๆ (แทนที่เรียกตัวเองว่า โบคุ ตามปกติ) แต่เขาก็แก้ตัวกับเราว่าเราเจออะไรแปลกๆ เขาก็เจออะไรแปลกๆเหมือนกัน(หมายถึงตัวเราเอง) แต่เขาก็บอกว่า ล้อเล่นนะ และ ตัดบทโดยบอกว่า รอบหน้าเราต้องไปกินข้าวเย็นกับเขาอีกนะ เขาจึงนัดเราเจอกันพรุ่งนี้ตอนสองทุ่ม ก่อนที่แทรคจะจบไป....

Track 3 デート เดท

เมื่อถึงเวลานัด เราเดินออกมาจากร้านที่เราทำงาน และ ได้พบกับเรียวอิจิที่รอเราอยู่แล้ว หลังจากนั้นเขาก็เรียกแทกซี่ ในแทกซี่ เขาก็เริ่มบทสนทนาด้วยการชมว่าวันนี้ชุดสวยดีนะ แต่งมาเพื่อเขาสินะ เราก็ปฏิเสธ เขาก็บอกว่าขอโทษ และหันไปบอกให้แทกซี่หยุดรถ แต่แล้วแทกซี่ก็เบรกกะทันหัน ทำให้เขากับเราเสียหลักทั้งคู่ หลังจากรถหยุด เรียวอิจิก็เริ่มสังเกตว่าเขากำลังกอดเราอยู่ เราเลยรีบผละเขาออก เขาก็เลยขอโทษเราอีก และบอกว่าเขาได้กลิ่นน้ำหอมของเรา ทั้งๆที่ปกติที่ร้านเราก็ไม่ได้ใส่ เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่จะบอกว่ามันเหมาะกับเราเท่านั้น
ในร้านอาหาร เรียวอิจิก็คุยกับเราไปเรื่อยๆจนเขารู้ว่าเรามีแฟนแล้วคบกันมาเดือนกว่า และแฟนก็นามสกุลเดียวกับเขาด้วย แต่เขาก็บอกเราว่าเขายังไม่มีแฟน เพราะเขาไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่าไหร่ อีกอย่างที่บริษัทก็มีแต่ผู้ชายเสียด้วย คุยกันไป ดื่มกันไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มเมา และ เริ่มเล่าให้ฟังถึงผู้หญิงที่เคยทำงานที่ร้านอาหารนี้ เคยเป็นรักครั้งที่แล้วของเขา (ซึ่งเหมือนเราเด๊ะเลย) แต่เขาก็อกหัก เพราะเธอคนนั้นมีแฟนแล้ว
ไม่นาน เขาก็เข้ามาใกล้ๆเรา และถามเราว่า แฟนเรานิสัยอย่างไร ? ดีไหม ? แล้วเรารักเขามากแค่ไหน แล้วเขาจะมีโอกาสได้แย่งเรามาจากเขาได้ไหม แต่ไม่นาน เขาก็เริ่มตั้งสติได้และกล่าวขอโทษเรา ที่เขาเมาแล้วพูดเลอะเทอะใส่เรา แต่เราก็ไม่ถือโทษอะไรเขา และ ดื่มเหล้ากับเขาต่อไป....
หลังจากที่ออกมาจากร้าน เขาก็กล่าวขอบคุณเราที่ออกมากับเขา ก่อนที่จะแยกกันไป เขาก็พูดกับเราด้วยคำว่า “ขอโทษ”

Track 4  残酷な偶然 ความบังเอิญอันโหดร้าย

ในขณะที่เรากำลังเดินอยู่ ก็มีโทรศัพท์เข้ามา แฟนของเรานั่นเอง เขาขอยกเลิกนัด(กินข้าว)เพราะงานยังไม่เสร็จ และให้ไปเจอกันตามแผนเดิมในวันพรุ่งนี้ (เสียงแฟนน่ารัก อร๊ายยยยย >v<\\) และเราก็เดินชนกับเรียวอิจิ เมื่อเห็นว่าแฟนมาไม่ได้ เรียวอิจิจึงชวนเราไปกินข้าวด้วยกันแทน (แต่เฮียแกก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าแฟนเราเป็นน้องเขานะ) และเขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาอาศัยอยู่กับน้องชายแค่ 2 คน ช่วงนี้น้องชายก็งานยุ่ง เขาก็เลยต้องไปซื้อกับข้าวจากร้านสะดวกซื้อบ่อยๆ เขาก็ขอร้องให้เราเห็นใจไปทานข้าวกับเขา เราก็เลยตกลง
หลังจากทานกันเสร็จ เขาก็ยังชวนไปกินต่ออีก แต่ก็หยุดพูดไป เขาบอกกับเราว่า เขารู้อยู่เต็มอกว่าเรามีแฟนแล้ว แค่เขาอยากจะทำตัวเป็นเพื่อนกับเราแค่นั้นเอง เขาอาจจะใจร้ายไปบ้าง เพราะเขาเคยบอกเราแล้วว่าเขาชอบใบหน้าเราเวลากังวลใจที่สุด (แล้วก็มักจะเกิดอารมณ์เวลาเห็นสินะ กรั่กๆๆๆ - คนรีวิว) เราอาจจะไม่ชอบผู้ชายมีอะไรลึกลับแบบเขา หรืออาจจะ “ชอบ” ก็ได้... (เหยดด มาเอนนกระซิบ 5555+)
แล้วเรียวอิจิก็เปลี่ยนเรื่อง เขาชวนเราไปที่สวนสาธารณะจากบันไดที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา และถามว่าเราเคยไปหรือไม่ แต่ก็อาจจะเคยเพราะเป็นสวนสาธารณะที่ดังมาก และ ถ้าเกิดว่าเข้าไปที่นั่นแล้ว ถ้าเจอสถานที่ในนั้น คนที่ได้พบเจอก็จะมีความสุข เราจึงไม่รอช้ารีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังสวนสาธารณะนั้นทันที พอวิ่งมาถึงที่หมาย เรียวอิจิก็หอบหนัก (แก่แล้วก็เงี้ยะ 30 กว่าๆ กรั่กๆๆๆๆๆ) เพราะเราอยู่ดีๆก็วิ่ง เขาเลยตกใจ และถามว่าเราเจอสถานที่นั้นรึยัง เราก็บอกว่าอาจจะเป็นตรงที่เรายืน เขาก็บอกว่าผิดแล้ว และชี้ไปยังสถานที่นั้น เพื่อให้เราเดินไปตามทางที่เขาบอก เรียวอิจิหันมาบอกเราอีกเรื่องเกี่ยวกับตำนานของสถานที่นี้ คือ “ถ้าคู่รักคู่ไหนได้มาที่นี่แล้ว จะผูกพันกันตลอดไป” เราก็ทำหน้างงๆ เขาก็บอกว่าล้อเล่น และบอกว่าเลิกกังวลได้ เพราะความเชื่ออะไรนั่นมันไม่มีจริงหรอก
และเรียวอิจิ ก็พาเราเดินไปยังจุดชมวิว ที่มีทั้งวิวทะเลและท้องฟ้า เขาบอกว่าจุดที่ยืนเป็นจุดที่มองเห็นทุกอย่างชัดเจน และ เขาก็บอกอีกว่า ถ้าคู่ที่มาดูวิวกันตรงนี้แล้ว.... แต่เขาก็หัวเราะ และ บอกว่าล้อเล่นอีก เราก็บอกว่าคราวนี้โกรธจริงๆแล้ว เรียวอิจิเลยบอกว่า จนกว่าจะหายโกรธ เขาก็จะยืนอยู่ตรงนี้ต่อไป เรียวอิจิถามอีกว่า พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเราจะมาเที่ยวกับเขาได้อีกไหม ? (แหม...ทำเป็นแฟนเราเลยนะคะ...) เราก็บอกว่าไม่ได้ เพราะพรุ่งนี้จะไปเที่ยวบ้านแฟนเป็นครั้งแรก เขาก็ทำเสียงเสียดายเล็กน้อย สักครู่เขาก็มายืนตรงหน้าและสบตากับเรา ดูเหมือนสติเขาขาดหายไปชั่วครู่ ในขณะที่ใบหน้าเขาก็เข้ามาใกล้เราทีละนิด แต่เขาก็ต้องชะงัก เมื่อรู้ตัวว่าข้ามเส้นเกินไปแล้ว หลังจากนั้น เขาก็พาเราไปส่งที่บ้าน และ แทรคก็จบไป...

Track 5 略奪、口づけ จูบแย่งชิง

ที่บ้านของเรียวอิจิในวันต่อมา มีเสียงกริ่งดังขึ้น เมื่อเรียวอิจิเดินไปเปิดประตูเขาก็ต้องอึ้งไป เมื่อผู้หญิงที่น้องชายบอกว่าเป็นแฟนและจะมาเที่ยวบ้านก็คือ“เรา”นั่นเอง เขากล่าวต้อนรับเรา และบอกว่าเราไม่ได้เข้าผิดบ้านหรอก ก่อนที่จะชวนเราเข้ามาในบ้าน เพื่อรอน้องชายที่ไปร้านสะดวกซื้อ (แกยังมีแอบบ่นว่าตาน้องชายนี่ไม่มีการดูเวลาเลย...) ไม่นานน้องชายก็กลับมาที่บ้าน (วร๊ายยยย ชอบเสียงน้องชายอะ อัยยะ...) เขากลับมาด้วยเสียงหอบและคำขอโทษที่ทำให้รอ ก่อนที่จะแนะนำเราให้พี่ชายเขารู้จัก ก่อนที่จะปลีกตัวไปอาบน้ำ เพราะเขาวิ่งมาจากร้านสะดวกซื้อ (หือวววว วิ่งสู้ฟัด กรั่กๆๆๆๆ)
เมื่อน้องชายวิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว (ยังจะวิ่งต่อ 555+) เรียวอิจิก็ยังไม่เลิกบ่นเรื่องน้องชายของเขา ก่อนที่จะหันมาบอกเราว่า ไม่คิดมาก่อนว่าเราจะเป็นแฟนของน้องชายเขา แต่เขาก็ตะขิดตะขวงใจมาตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งนามสกุลที่เหมือนกัน และน้องเขายังบอกอีกว่าคบกับแฟนใหม่มา 1 เดือนแล้ว เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ และพูดว่า เขาไม่ควรจะแตะแฟนของน้องชายสินะ...แต่เพราะเขาไม่เคยตัดใจจากเราได้เลย เขาก็เลยลำบากใจ....
ทันใดนั้น ! เรียวอิจิก็ตรงเข้ามาหาเรา และ จับเรา “จูบ” ทันที เราก็พยายามขัดขืนและพยายามหนี แต่เขาก็บอกว่าจะไม่ให้หนี ถ้าเกลียดนักก็ร้องเสียงให้ดังเลย แต่เราก็ไม่ยอมร้อง เขาจึงถามว่าทำไมถึงไม่ร้อง กลัวน้องเขารู้หรือไง ? หรือว่า ไปถึงไหนต่อไหนกับน้องชายเขาแล้ว ? เราก็ส่ายหน้า ทำให้เขารู้ว่า เราไม่เคย “มีอะไรลึกซึ้ง” กับน้องชายของเขาเลย และ ถ้าเขาจะได้เราก่อนน้องชายเขาละ จะมีใครคิดอะไรยังงัยนะ...
แต่การจูบก็ต้องจบลง เมื่อน้องชายเดินออกมาจากห้องน้ำ ทำให้ทั้งสองผลักออกจากกัน  น้องชายที่ไม่รู้อะไรเลย ก็ยังย้ำอยู่ตลอดว่า เราเป็นแฟนของเขา แต่เรียวอิจิก็บอกว่า “ไม่ต้องย้ำก็ได้น่ะ...” ก่อนที่เขาจะเดินออกไป.....

Track 6 ……愛し合う ......รักกัน

หลังจากที่เราทำงานเสร็จแล้ว เราก็กำลังกลับบ้าน และ วิ่งชนกับเรียวอิจิที่ไม่ได้เจอกันนาน 1 อาทิตย์ เรียวอิจิบอกว่าที่เขาไม่ได้ไปที่คาเฟ่ที่เราทำงานเลย เพราะเขามัวแต่ยุ่งกับงานจนไม่เวลาไปแวะที่คาเฟ่ (แต่ที่จริงเฮียแกน่าจะกำลังทำใจมั้ง...) และก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เพราะที่เขาไม่ไปหาเรา เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าเรานั่นเอง แต่เขาก็ยังชวนเราไปเดินเล่นต่อ
ระหว่างที่เดินเล่นด้วยกัน เขาก็ชมวิวทะเลไปเรื่อยๆ และ บอกว่าเขาไม่คิดว่าเราจะเรียกเขาตอนนั้นเลย เพราะมันจะทำให้เขาเข้าใจผิด เราก็ถามว่าเข้าใจผิดว่าอะไร เขาก็ตอบว่า “เข้าใจผิดที่ว่าเราก็แอบมีใจให้เขาเหมือนกัน” และเราก็ชอบหลบตาเขาอยู่เรื่อยด้วย เขาบอกว่าเราไม่รู้ตัวเลยหรือไงที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้น
และเขาก็ถามเราว่า รู้จักน้องชายของเขาได้อย่างไร เขาก็บอกว่า เจอกันระหว่างไปทำงาน เขาก็เลยเดาว่าคงเป็นรักแรกพบสินะ และเขาก็หันมาบอกเราว่า เราก็เป็นรักแรกพบของเขาเหมือนกัน และ สุดท้ายเขาก็สารภาพว่าเขารักเรา แต่เพราะเขากลัวว่าถ้าเจอกับเราอีก เขาคงอดใจไว้ไม่ไหวแน่นอน เขายังถามเราอีกว่า ถ้าเราเจอเขาก่อนน้องชาย เราจะรักเขาได้ไหม ?
เรียวอิจิเข้ามากอดเรา เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาชอบเราด้วย ทั้งๆที่เป็นแฟนของน้องชายแท้ๆของเขา และเขายังกลัวว่าการที่เขาทำแบบนี้ มันจะทำร้ายจิตใจของเราด้วยหรือไม่ แต่เราก็ยังไม่ตอบ เรายังยืนเงียบอยู่แบบนั้นด้วยความสับสน
ไม่นานฝนก็ตกลงมา เรียวอิจิเลยชวนเราไปหลบฝน โดยไม่ลืมให้เราถอดรองเท้าส้นสูงก่อนด้วย แต่เราก็วิ่งพลาด ล้มลงไป และลุกไม่ไหว เขาเลยอุ้มเราขึ้น และ วิ่งต่อไป...
เมื่อเข้ามาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง เขาก็เปิดห้อง และ เข้าไปพักก่อน เขาบอกให้เรารีบเปลี่ยนเสื้อ ก่อนที่จะไม่สบาย แต่เราก็ไม่ยอมถอด เขาเลยบอกว่าถ้าไม่เปลี่ยน เดี๋ยวพอเข้าร้าน(?)ไปก็ลำบากเปล่าๆ หรือว่าที่เราไม่ยอมเพราะเพิ่งเคยเข้าโรงแรมเป็นครั้งแรก? (โหย...ลากเข้าเรื่องแบบนี้ตลอด กรั่กๆๆๆๆ) เขาเข้ามาใกล้เรา และบอกว่าที่เขาทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะนี่มันเป็นนิสัยชอบรุกของเขานี่เอง และเขาก็เป็นห่วงสุภาพของเรามากๆด้วย แต่...ถึงแม้ว่าจะพูดอะไรออกไป มันก็ไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกในใจของเขาไม่ให้แสดงออกได้เลย
ไม่นาน เขาก็เข้ามาสวมกอดเรา และ บอกว่า “เขาต้องการเรา” ถึงแม้ว่าจะต้องหักหลังน้องชายของเขาก็ตาม แต่เขาอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเรา เขารักเรา ยิ่งรักก็ยิ่งเจ็บปวด แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เรียวอิจิจูบเรา และ เขาจะไม่รอคำตอบเราอีกแล้ว เพราะไม่ว่าเราจะตอบอะไร เขาก็หยุดตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เขาจูบไปเรื่อยๆ และบอกว่ามีอีกอย่างของตัวเขาที่น่าอาย คือ เขาคิดตลอดว่าน้องชายของเขาทำอะไรกับเขาแล้วบ้าง และถามว่า “เราได้นอนกับน้องชายเขารึยัง?” (โซยเนะ ? //โดยสอยร่วง) แต่ไม่ต้องตอบเขาก็ได้ เพราะเขารู้แล้วว่าคนรักกันมันก็ต้อง “ทำแบบนั้น” กันแล้วเป็นเรื่องปกติ (เอ่อ ไม่จริงนะคะพี่เรียวขา นู๋มีแฟนนู๋ยังไม่ยอมให้มันจับมือเลย 5555+) พูดไปเรื่อยๆก็จูบไปเรื่อยๆ ก็ถามเรื่อยๆว่าน้องชายทำอะไรเราบ้าง สัมผัสเราอย่างไร ใช้ลิ้นทำให้พึงพอใจอย่างไร และ ทำร้ายไปถึงข้างใน(?)อย่างไร แค่เขาคิดเขาก็เครียดจนทนไม่ไหวแล้ว และเขาก็จะลงมือกับเราตอนนี้เลย ก่อนที่จะพาเราเข้าห้องน้ำไป....
(ต่อจากนี้ขอป้ายสีขาวยาวๆ อยากอ่านก็แบล๊คคลุมกันเองนะคะ >///<)
เมื่อเข้ามาถึงในห้องน้ำแล้ว เขาก็ปิดประตู และ เปิดฝักบัวเสียงดังมาก พร้อมกับบอกว่าเขาจะลบล้างความรู้สึกถูกสัมผัสของน้องชายเขาไปให้หมด และทิ้งร่องรอยของเขาเข้าไปแทน ก่อนที่จะจับเราถอดเสื้อออกทั้งหมด (น่าจะทั้งหมดนะ 555+) เมื่อถอดออกหมดแล้ว ก็ถามว่าอยากให้สัมผัสแบบอ่อนโยน หรือ แบบแรงๆดี (แรงๆสิค๊า หนูเป็นมาโซค่ะ 55555+) และถามว่าจะให้ลูบ หรือ หยิกแรงๆดี จูบไป เขาก็บอกว่า ลูบดีกว่าสินะ เพราะเสียงครางออกมาหวานดี และ เขาก็ถามเราอีกว่า หรือจะให้ ดูดเบาๆ ดี ? (กรุณาฟังดัมมี่ไมค์แล้วตัดสินกันเองนะเคอะ กรั่กๆๆๆๆๆ) และก็บอกว่าอาจจะดีก็ได้เพราะตอนนี้มันกำลังชูชันเลยหละ
และมือของเรียวอิจิก็ไปถึงข้างล่าง และ ถามว่าเสียงนี้มันเสียงอะไร และให้เราร้องให้มากกว่าเดิม และ ถามอีกว่านิ้วของน้องชายเขาดีแบบนี้ไหม ? ชอบตรงนี้ใช่ไหม ? (โอ้ยยยยย อายหน้าแดงแล้วอะ >////< เสียงมาเอนนทำตาย) และบอกไม่ต้องเกร็งมากก็ได้ เพราะเขาจะแกล้งจนกว่าเราจะพอใจ และ เมื่อจะถึงเขาก็ทำแรงขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงเวลาหนึ่งผ่านไป เรียวอิจิก็เริ่มบรรเลงบทรักในห้องน้ำนั้นเลย และบอกว่าอาจจะทำแรงนิดนึง ขยับไปเรื่อยๆ เขาก็บอกว่าแม้จะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะรับผิดชอบเราเอง และ สุดท้ายเราต้องเลือกเขาอย่างแน่นอน

เมื่อบทรักจบลง ในห้องนอน เขาก็ตรงมาจูบเรา และให้เราเข้าไปกอดเขาให้หายหนาว เขาบอกว่าที่เขาทำเราแบบนี้ เพราะเขาจริงจัง จริงจังที่จะแย่งเรามาจากน้องชายให้ได้ และ ขอให้เราเลิกกับน้องชาย และ เลือกคบกับเขาที....

Track 6 Bad? Day


แทรคนี้เป็นผลถ้าเราเลือกไม่เลิกกับแฟน แต่ยังลักลอบมีอะไรกับพี่ชายเรื่อยๆนะเคอะ.... ในวันแต่งงาน คนที่เดินเข้ามาในห้องของเราคือ เรียวอิจิ เรียวอิจิชมถึงความสวยงามของชุดเจ้าสาวของเรา ก่อนที่จะเดินมาจูบ เขาพูดว่าถ้าหากมีคนรู้ว่าเจ้าสาวโดนแย่งจูบไปก่อนหน้าเจ้าบ่าวก็คงแย่เลย เขาบอกเราว่าเราไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดว่าจะเลือกใครมาถึงวันนี้ เขาจูบไปเรื่อยๆ และบอกว่าเขาจะช่วยเราปิดเรื่องนี้ต่อไป ยิ่งชมความสวยงามของเจ้าสาวอย่างเรา ใจเขาก็ยิ่งเตลิด  การจูบยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเรียวอิจิก็บอกว่าจะจูบให้เราลิ้มรสความสุขไปทั้งวันเลย... (ทำไมแทรคนี้ ชั้นถึงคิดว่ามันเอโร่ยกว่าแทรคที่แล้วหว่า ? หรือ เพราะเสียงเลียของมาเอนน อรั๊ยยยยยย)

Track 7 Wonderful? Days


ในแทรคนี้ เป็นแทรคผลที่เราเลิกกับน้องชาย และ เลือกพี่ชายแทน เรากำลังแพคของเพื่อไปอยู่ต่างประเทศกับเรียวอิจิ เรียวอิจิได้ย้ายไปทำงานเมืองนอกจึงพาเราไปด้วย และ กล่าวขอบคุณเราที่เลือกเขา เขาจะไม่ทำให้เราผิดหวังเลย เราก็ขอให้เขาทำให้เรามีความสุขด้วยการจูบทั้งเช้าและเย็น และในวันหยุดก็จะพาเราไปเที่ยว และจะไม่ทำให้เราร้องไห้ด้วย
ไม่นานเรียวอิจิก็เข้ามาจูบเราและผลักลงเรากับเตียง และ จูบอีกเรื่อยๆ กระซิบว่าเรานี้เป็นคำขอของเขาบ้าง ด้วยการให้เราบอกรักเขาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และให้ความรักโดยการสัมผัสเขาด้วยความอบอุ่น และขอให้เราเชื่อเขา และ อยู่กับเขาตลอดไป ก่อนที่จะตบท้ายด้วยคำว่า “ฉันรักเธอ” และจูบต่อไปเรื่อยๆจนจบแทรค

Track 8 Free Talk by Maenon เอ้ยยยยย Sakura Hiroshi

แทรคนี้มาแบบสั้นกว่าโวลุ่มที่แล้ว อือม มันก็เสียงมาเอนนดัดละนะ 5555+ มาเอนนทิ้งท้ายว่า “การนอกใจ เป็นสิ่งไม่ดีนะ แต่ถ้าจะเอาจริง ก็มีโอกาส(โอกาสไรอะ 5555+) และกล่าวจบไป


==============================

และแล้ว โวลุ่มนี้ก็จบสมบูรณ์แล้วค่ะ

ถ้าใครฟังแล้วคิดว่ามันผิด เพี้ยนๆสามารถติติงได้ตลอดนะคะ ถ้าไม่ถูกต้องอย่างไร
เพราะภาษาญี่ปุ่นก็นะไม่ใช่ภาษาแม่เราจะได้มาฟังทีเดียวแล้วเข้าใจแบบละเอียดยิบได้...

แล้วเจอกันเมื่อชาติต้องการค่ะ TvT


ปล. ขอทิ้งรูปใครบางคนเอาไว้หน่อย กรั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





Monday, October 21, 2013

[Review] Situation CD Diabolik Lovers Vol.5 Sakamaki Reiji

กระดึ๊บๆกระดึ๊บออกมาจากฝาหอย (?!)

เอนทรี่นี้ไม่ได้มาแจกไฟล์นะคะ แต่ว่าเราจะมารีวิวเกี่ยวกับ Situation CD
ของหนุ่มคนนี้ต่างหาก !!



Diabolik Lovers Vol.5 Sakamaki Reiji
CV. Konishi Katsuyuki

(จริงๆแล้วเห็นสาวญี่ปุ่นเค้ารีวิวกันเยอะมากเราเลยทนไม่ไหวต้องขอรีวิวบ้าง)

เขาคือ พ่อบ้าน มีความมานะ เอโร(ถามหน่อยเอโรตรงไหน?!?) สุภาพ(บุรุษเกินเหตุ!)

และอีกอย่าง เขายังเป็นแวมไพร์ที่ S มากๆ อีกต่างหาก


ก่อนรีวิวต้องแนะนำตัวละครก่อน
 
 
ชื่อ ซาคามากิ เรย์จิ
เผ่าพันธุ์ แวมไพร์
โรงเรียนมัธยมปลายเรียวเทย์
ปีที่ 3
อายุ 18 ปี
ความสูง 183 เซนติเมตร (โอ้ว แวมไพร์หรือ เปรx)
น้ำหนัก 67 กิโลกรัม
กรุ๊ปเลือด โอ (กรุ๊ปเดียวกับเค้าอีกอะ...)
ของกินที่ชอบ คาร์โบนาร่า
งานอดิเรก สะสม tableware(s)

ลูกชายคนที่สองแห่งบ้านซาคามากิ
เป็นโดะเอสที่ ปกติก็พูดจาไพเราะราวกับพ่อบ้าน
แต่เนื้อหาที่แกพูดออกมานั้นช่างดูถูกและแทงใจคนฟังจริงๆ
เป็นคนที่ยึดถือเรื่องกฏระเบียบ แล้วก็บังคับให้รอบข้างยึดถือไปด้วย
แต่พี่แกดันเป็นคนตั้งกฏระเบียบขึ้นมาเอง แถมยังเป็นกฏแปลกๆด้วย
การเก็บรักษาช้อนส้อมถ้วยชาที่ได้มา เป็นสิ่งที่ทำประจำในชีวิตประจำวันของเขา

หมดแนะนำตัวละครแค่นี้เค่อะะะะะ

ต่อไปก็เป็นรีวิวเนื้อหาอย่างคร่าวๆของซีดีแผ่นนี้
 
Warning !! A lot of spoils here !!!

"เมื่อคุณได้รับบาดเจ็บขยับไม่ได้ และเรย์จิก็พาคุณไปส่งที่เตียง
คุณกำลังจะถูกบังคับกรรโชกโดยโดะเอสพ่อบ้านอย่างเรย์จิ" --- คร่าวๆ

ใช่ที่ไหนเล่า !!!!! /ทุบหัวตัวเอง

ปล.เราเล่าไปด้วยอาจจะวงเล็บที่เป็นคอมเม้นของเราด้วยนะคะ อย่าไปสนใจเลย....
 
 
   เริ่มเรื่องคือ เราเกิดฝันร้ายแล้วต้องตื่นขึ้นมากลางดึก เราจึงออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อฆ่าเวลานอนไม่หลับ และเราจะได้พบเรย์จิ ซึ่งกำลังจิบชาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ตอนแรกเราจะไม่กล้าเข้าไปหาเรย์จิตรงๆ แต่เรย์จิดันรู้ตัวก็เลยเรียก(สั่ง)เราให้มานั่งด้วยกัน เรย์จิบอกว่า ถ้าเป็นพี่น้องคนอื่นเราคงถูกด่าเปิงไม่ก็โดนจัดการ(?)ไปแล้ว แต่เพราะเป็นเขาเราก็เลยไม่โดนแบบนั้น หลังจากนั้นเรย์จิก็จะบอกว่าเขาขอดื่มชาต่อ(โดยไม่สนใจเราว่างั้นเหอะ)แล้วกัน เราก็เลยขอตัดบทเพื่อกลับไปนอน แต่เรย์จิก็เรียกไว้ แล้วก็ชวนเราดื่มชาด้วยกันซะเลย (เป็นความคิดที่ดีนะแก๊)

    หลังจากนั้นเค้าก็จะพูดๆๆให้เรารู้สึกอยากร้องไห้ แล้วเรย์จิก็จะพูดว่า เพราะเหตุนี้แหละ เขาถึงไม่ชอบผู้หญิง (ห๊ะ?) แล้วก็ดื่มชากันไปเรื่อยๆ เรย์จิก็จะพูดถึงชาที่เขาดื่มว่ากลิ่นหอม ไม่กินต้องเสียดายแน่ๆ พอเราดื่มเข้าไป เราก็เริ่มหยุดร้องไห้แล้ว เรย์จิก็ถามว่าทำไมดึกดื่นป่านนี้ถึงไม่หลับไม่นอน แล้วก็ให้เวลา 3 วินาทีในการตอบคำถามของเขา เราก็จะบอกเขาว่าเรานอนไม่หลับเพราะฝันร้าย เรย์จิก็จะหัวเราะแล้วพูดว่าไม่ได้หัวเราะเยาะนะ บอกว่า เห็นว่าเราน่ารักในแบบของเราแค่นั้น แล้วก็เขาก็จะบอกว่า ฝันร้ายไม่ใช่เรื่องแปลก (สงสัยพยายามจะปลอบเรา)

    หลังจากนั้นเรย์จิจะชวนเราดื่มชาต่อ แต่เราไม่ดื่มและบอกว่ารอจะให้อุ่นกว่านี้หน่อยแล้วค่อยดื่ม เรย์จิก็บอกว่าต้องดื่ม เพราะ ชาจะอร่อยต้องกินเวลาร้อนๆ เราเลยดื่มเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ แล้วเขาก็ดื่มบ้าง แล้วก็ชมความหอมหวลของชาตัวเอง(อีกแล้ว) แถมยังพูดว่าคืนนี้คงจะดีกว่านี้ถ้าเราไม่มาที่นี่(อ้าว พูดแบบนี้กลับไปนอนเลยเหอะ...) เราก็ยังฝืนพูดต่อว่า ไม่เป็นไร เพราะอยากดูเรย์จิดื่มชา(ห๊ะ) เรย์จิก็จะพูดว่า ดูไปเพื่อ ? ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย

    จากนั้นเรย์จิก็จะพูดถึงถ้วยชาของเขาว่าเราไม่ควรจะแตะต้อง(สงสัยจะหวงนะ) แล้วก็พูดถึงช้อนส้อมที่เขาสะสมไว้ แล้วให้เราดูช้อนที่อยู่ในถ้วยชาของเขาว่าเวลาสะท้อนแสงจันทร์แล้วจะวิบๆ วับๆ ส่วนจานถ้ามีอะไรใส่เข้าไปก็คงจะดีมากๆ แต่ที่เขาชอบมาที่สุดคือ ถ้วยชาของเขาเอง แล้วก็พูดว่าสวยอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็พูดว่า แค่คิดว่าในถ้วยนี้มีเลือดใส่เข้าไปแล้วก็ค่อยๆจิบละก็...แล้วก็กลืน น้ำลาย....(ใครกลืนกันแน่ฟระ ชั้นหรือแก๊?) แล้วเรย์จิก็จะให้เราเข้าไปดูถ้วยนั้นใกล้ๆ
 
   แต่เรากลับทำซุ่มซ่ามเผลอทำถ้วยชาของเรย์จิแตกจนได้ เรย์จิก็เกิดบันดาลเดือด แต่ไม่ทันเดือดเขาก็เห็นว่าเราโดนแก้วบาด จนเลือดออกที่นิ้ว เขาก็จับมือเราขึ้นมา และค่อยๆเลียเลือดที่ติดอยู่ออก (แค่เลียจริงๆ ไม่ได้กัดแต่อย่างใด) แต่เราก็ยังกลัวๆเลยพยายามดึงนิ้วออก เรย์จิเลยย้ำให้เรานิ่งๆเข้าไว้ และก้มลงดูดอีกที พร้อมเสียงหายใจเข้าออกระรัวของเรย์จินั่นแล

    แต่แล้วเรย์จิกลับไม่ดูดเลือดเรา หลังจากเลียเลือดออก ก็ปล่อยมือเราออก แล้วถามว่า ไม่เจ็บเลยใช่มั้ย... แล้วก็บอกว่าไม่สงสัยเลยว่าทำไมพวกน้องๆของเขาถึงชอบดูดเลือดของเรานักหนา แล้วก็พูดว่าเพราะเขาเป็นแวมไพร์ เวลาที่เห็นเลือดแล้วไม่เกิดคลั่งขึ้นมามันก็แปลก (แต่แกก็ไม่ดูดเค้าอะ ฮือๆๆๆ ดูดเซ่ๆๆๆๆๆๆๆๆ /ป๊าบบบบบ โดนน้องพีปาใส่หัว) แล้วเราก็ทำหน้ากลัวขึ้นมา แล้วก็บอกว่ารู้นะว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วบอกว่าแค่เลือดเราไม่พอให้เขาเกิดคลั่งขึ้นมาหรอก (เหรอ!!) เรย์จิยังพูดอีกว่า แวมไพร์นะ ถ้าไม่อยากดูเลือด ก็จะไม่ดูดหรอก แต่ถ้ามีใจอยากดูดก็จะดูดทันทีแบบไม่ต้องลังเล

    แต่ในทันใดนั้น เรย์จิก็เกิดพูดขึ้นมาว่า "จริงๆแล้วตอนนี้ ผมเกิดอยากดูดเลือดของคุณจนทนไม่ไหวแล้วต่างหากละ!!" หลังจากนั้นเราก็กลัวขึ้นมาแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูออกทันที แต่ดันเปิดไม่ได้ (กรี๊ดด หนีทำมายยย ให้มานดูดส์ไปเลยๆๆๆๆ ดูดๆๆๆๆ /โครมมม โดนเก้าอี้ทับ) เรย์จิก็หัวเราะแล้วบอกว่าจะหนีเหรอ หนีไม่ได้หรอก ประตูมันล๊อคอยู่ แล้วก็หาว่าเราโง่อีก ที่ไม่รู้ว่ากลอนมันล๊อคเมื่อไหร่

    เรย์จิก็เดินมาหาเราช้าๆ แล้วบอกว่า ไว้ใจได้เลย เขาไม่ทำให้เราเจ็บปวดหรอก แล้วก็ถามว่าจริงๆแล้วถ้าเราฝันร้าย เราจะมาหาเขาที่ห้องนอนของเขาเป็นที่แรกใช่มั้ย แล้วเราก็หนีไปที่อื่น แต่ก็ไม่พ้น เรย์จิเลยถามว่าเราว่า เราอยากให้เขาดูดเลือดเราจากตรงไหน จากคอเหรอ? จากริมฝีปาก จากข้อมือ หรือ จะเป็นจากถ้วยชาละ ?

    พูดไปเรื่อยๆ เราก็ขยับหนีไปเรื่อยๆ เรย์จิก็หัวเราะ แล้วบอกว่า เขาล้อเล่น (ห๊ะะะะ) แถมยังบอกว่าเขาเห็นเราทำท่ากลัวแบบนั้นแล้วน่ารักดี แถมยังบอกว่า เราคิดว่าเขาจะเกิดคลั่งขึ้นมาจริงๆเหรอ หรือว่าเราเกิดต้องการให้เขาดูดเหมือนกับน้องคนอื่นๆที่เคยดูดเราใช่ มั้ย....(โฮกกกกกก บิชจังจริงๆอินางเอกกกก เออ...เรานี่หว่า... - -*)

    หลังจากนั้นเขาก็จะพูดแทงเราไปเรื่อยๆ แล้วเรย์จิก็เทชาลงกับพื้น ให้เราเอาผ้ามาเช็ด เราก็ต้องจำยอมก้มลงเช็ดพื้นให้เรย์จิ (โอ้ย ชุดนอนชั้น...) แล้วเรย์จิก็พูดแทงเราอีกขณะเราเช็ดพื้นให้ แถมยังพูดว่าท่าทางเวลาเราเช็ดพื้นถึงจะดูไม่โปร แต่ก็ไม่เลวเท่าไหร่ (อะไรไม่เลวเท่าไหร่ฟระะะ) แล้วก็ดูเชิญชวนอีกต่างหาก (แกยังไม่เคยเห็นท่าขูดมะพร้าวใช่มั้ยเรย์จิ!?)

    หลังจากนั้นเรย์จิจะให้เรายืนขึ้น แล้วยังสั่งให้เรายืนหลังตรงๆด้วย (โหยยังกะฝึกลูกเสือ) พอเรายืนหลังไม่ตรง ก็ว่าเราว่าไม่มีบุคลิกภาพที่ดีอีก หลังจากนั้นเรย์จิก็จะถามเราว่าเต้นรำเป็นมั้ย เราก็จะบอกว่าไม่เคยเต้น เรย์จิก็จะเย้ยว่าพ่อไม่เคยสอนเลยละสินะ (ลืมไปว่านางเอกมันมีแต่พ่อ- -*) เรย์จิก็เลยบอกว่า ต่อไปนี้อาจจะมีโอกาสไปเต้นบ่อยๆ เรียนรู้ไว้ก็ไม่เสียเปล่า เขาเลยเสนอตัวจะสอนเต้นให้

    หลังจากนั้นเรย์จิก็จะพาเราไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องสำหรับเต้นรำ แต่ก่อนเต้นเขาจะให้เราเปลี่ยนชุดก่อน แล้วก็เปลี่ยนมันตรงนั้นหละ เรย์จิก็ใช้คำพูดบังคับเปลี่ยนเสื้อให้เรา (เปลี่ยนเสื้อให้เหมือนใครสักคนนะ....พ่อบ้านเหมือนกันอีก)

    หลังจากนั้นพอเปลี่ยนเสร็จแล้ว เรย์จิก็พาเราไปเต้น ตั้งแต่จังหวะวอลซ์ ไปถึงแทงโก้(แทงโก้รึเปล่านะ ฟังไม่ชัด) จนถึงฉากนี้ ขอบอกว่า นักพากย์อารมณ์ศิลป์จริงๆ พูดเป็นจังหวะมาก อิจิ นิ ซัง อิจิ นิ ซัง ไปเรื่อยๆ เราก็เผลอเหยียบเท้าเรย์จิเข้า เรย์จิก็พูดดูถูกเราอีก แล้วยังบอกว่ารองเท้าเค้าเปื้อนแล้วเนี่ย พูดไปเรื่อยๆ เราก็หน้าซีดไปเรื่อยๆ เรย์จิเลยบอกว่า ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอก เขาไม่กรรโชกโฮกฮากเหมือนพวกอายาโตะหรอก อย่างมากที่เขาจะทำคือ....ดึงมือเรามา และ จูบลงกับมือของเรา เท่านั้น....(เอ่อ...จะจุ๊บที่ปากก็ไม่เป็นไรนะตะเอง...)

    หลังจากนั้นเรย์จิจะสังเกตว่าเราเริ่มคลายความตึงเครียดแล้ว จึงเต้นต่อไปเรื่อยๆ แต่คราวนี้ เขากลับพูดว่า เมื่อกี้กินชาเข้าไปได้นิดเดียวเท่านั้น ตอนนี้ก็เลยเริ่มคอแห้งผากเสียแล้ว แค่จินตนาการว่าหากเลือดของเรากระจายเข้าไปในปากของเขาละก็....เริ่มหิวขึ้น มาซะแล้ว ถ้าหากเขาได้ฝังเขี้ยวเข้าไปในคอของเราแล้วดูดเลือดของเรา อาจจะทำให้เขาหายคอแห้งขึ้นมาบ้าง หลังจากนั้นเราก็เผลอสะดุดเท้าเรย์จิข้อเท้าพลิกจนลุกไม่ได้ เรย์จิเลยอาสาพาเราไปส่งที่ห้องนอน.....

    เข้ามาฉากดัมมี่ไมค์แล้วง๊าบบบบ เป็นฉากที่เรย์จิพาเรามาที่ห้องนอนของเขา พอเข้ามาแล้วเขาก็ให้เรานั่งลงกับเตียงของเขา (ไม่ใช่โรงศพเรอะ...) เรย์จิก็จะพูดเราให้เรากลัวอีกเรื่อยๆ แล้วก็จับข้อเท้าเรา เราก็พยายามกระเถิบหนีไม่ยอมให้จับ เรย์จิก็จะหันไปพูดถึงของสะสมที่อยู่ในห้องของเขาเรื่อยๆ หลังจากนั้นเขาจึงค่อยๆเฉลยออกมาว่า ชาที่เราดื่มไปเมื่อครู่ เขาใส่ยาพิษเข้าไปด้วย ทำให้เราหมดแรงง่ายมาก แต่เรย์จิก็บอกว่าล้อเล่นอีก เพราะเขาจะไม่ใช้ยาพิษกับเราอยู่แล้ว

    เราก็เลยถามว่า จะใช้ยาพิษกับใคร เรย์จิเลยบอกว่าเขาจะใช้กับคนที่ไม่ยอมฟังคำสั่งและทำตามกฏของเขา แล้วก็จะเกลียดมาก คนแบบนี้ แต่ไว้ใจได้ เพราะเขาไม่ได้พูดกับเราแน่นอน แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนเป็นเรื่องที่เขาเลียเลือดเราจากนิ้วเมื่อกี้ เขาบอกว่าเลือดของเราพิเศษ(อีกแล้วเรอะ...สุบารุก็พูดเงี๊ยะ...) แล้วก็ไม่สามารถลืมได้เลย ถ้าหากเลือดของเราเข้าไปในปากของเขาอีกครั้ง

    หลังจากนั้นเขาก็จะให้เรานึกถึงกฏข้อหนึ่งที่เขาเคยบอกเราไป (ข้อไหนฟระ ตรูจำไม่ได้) แต่เราดันบอกเขาว่าจำไม่ได้ เขาจึงบอกว่า กฏนี้ไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้เอง แล้วก็ใช้ประโยคกับเราที่ว่า "คุณน่ะ...รู้ตัวว่าคุณมีตัวตนที่จะต้องคุกเข่าลงและก้มศรีษะให้กับผมรึ เปล่าล่ะขอรับ" หลังจากนั้นเรย์จิก็จะนำโซ่มาล่ามที่ขาของเราเพื่อไม่ให้เราหนี  (ไม่รู้ว่าเป็นโซ่รึเปล่านะ หรือกุญแจล๊อคขาไม่รู้ แต่รู้อย่างเดียวมันทำให้เราหนียาก...) เราก็จะเริ่มร้องไห้ เรย์จิก็จะบอกว่าน้ำตาก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก

    จากนั้นเราก็จะพยายามคลานหนีบนพื้น (ไหนๆก็เดินไม่ได้ละนี่...) เรย์จิก็เลยบอกว่า ถ้าอยากหนีก็มาเอากุญแจในมือของเขาไปเปิดสิ เราก็พยายามคว้ากุญแจจากมือของเรย์จิ แต่ก็คว้าไม่ได้ เรย์จิจึงบอกว่า ถึงจะหนีออกไปจากห้องนี้ได้ ก็ไม่มีคนช่วยเราได้หรอก จากนั้นเรย์จิก็เข้ามาจับเราบ้าง เราก็พยายามคว้ากุญแจอีก แล้วก็ดิ้นไปเรื่อยๆ เรย์จิก็เลยบอกว่า ยิ่งเราดิ้น ห้องก็ยิ่งเต็มไปด้วยฝุ่น (เอ่อ...เรย์จิคะ ฝุ่นน่ะมันจับตัวเราแล้วหละ มันไม่กระจายไปทั้งห้องเธอหรอก...)

    แล้วเรย์จิก็จะพูดว่า เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเราทำให้เขาโกรธ เราต้องถูกเรย์จิทำโทษ โทษนั้นก็คือการถูกเขาดูดเลือดนั่นเองงงง หลังจากนั้นเรย์จิจะสั่งให้เรายืนขึ้น หลังจากนั้นเรย์จิก็จะพูดดูถูกเราทำให้เราเริ่มโมโหบ้าง และพยายามจะตบหน้าเรย์จิ (แต่ก็ตบไม่ได้เพราะเรย์จิจับไว้) เรย์จิก็เหมือนจะเก็บอารมณ์ไว้ได้อีก ก่อนจะบังคับให้เราพูดว่า "ฉันจะยอมเป็นของท่านเรย์จิ และ มอบเลือดของเราให้เขาซะ" จากนั้นเรย์จิก็จับเรากดลงกับเตียง

    เราก็จะมองเรย์จิแบบกลัวๆเพราะตอนนั้นเรย์จิก็อยู่บนร่างเราแล้ว เรย์จิก็บอกว่าเขาไม่ต้องการจะดูดเลือดเราบนพื้นเพราะไม่อยากให้เสื้อเปื้อน ก่อนที่เขาจะพูดว่าตอนนี้คอแห้งจริงๆแล้ว และ บอกว่าเขาเป็นแวมไพร์ แล้วตอนนี้ก็กระหายจนไม่ไหว แล้วไม่จำเป็นต้องกักเก็บ(อารมณ์)อะไรเอาไว้อีกต่อไปแล้ว เพราะนี่คือบทลงโทษของเรา

    และแล้วเรย์จิก็กัดเราลงกับคอซ้าย กัดไปได้เขาก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วตะโกนว่า เลือดของเราเติมเต็มความกระหายให้เขาแล้ว วิเศษจริงๆ !!! (ถึงฉากนี้เราไม่ได้กลัวอะ แต่ขำรุนแรง - -*) แล้วก็หัวเราะๆ แล้วก็ถามเราว่า เวลาที่ถูกเขาดื่มเลือด เลือดของเราไหลเวียนและซึมซับอยู่ในร่างกายของเขา รู้สึกอย่างไรบ้าง แต่เราก็ไม่ตอบ แค่ถูกดูดไปครั้งเดียว ก็นิ่งเสียแล้ว แล้วยังถามเราอีกว่าทนได้แค่นี้เองเหรอ เราก็บอกว่าไม่ใช่ เรย์จิก็บอกว่าเราตอบไม่ตรงกับใจอีก น่าเสียดาย

    แต่เขาเชื่อว่า เราสามารถเติมเต็มให้กับเขาได้แน่ๆ หลังจากนั้นเรย์จิก็หอบหายใจรุนแรงอีกครั้ง แล้วบอกว่า คอแห้งอีกแล้ว (เอ่อ ไม่จำเป็นต้องบอกมั้ง...) ยังงัยเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเราไปเด็ดขาด แล้วเสียงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนก็ดังขึ้น !!!

    แล้วเรย์จิก็กัดเราอีกครั้งที่คอขวาระหว่างที่นาฬิกามันตีนั่นหละ แล้วเรย์จิก็หัวเราะ และ จบลงด้วยคำว่า "ราตรีนี้ยังอีกยาว (คุ้นๆแหะ เหมือนน้องๆมันจะพูดกันมาก่อนหน้านี้แล้ว) เอาหล่ะ ด้วยเลือดของหญิงสาวอย่างคุณนี้ ช่วยเติมความกระหายให้กับกระผมทีเถอะ" แล้วก็หัวเราะ... จบด้วยเพลงประกอบซีรีย์นี้ (น่าหนวกหู แต่ก็ช่างมันเถอะ ไม่เลวร้ายมากมาย....)


จบแล้วจ้าาาาาาา
 
 
My additional comments ค่อนข้างยาวนะคะ แต่อ่านกันหน่อยก็ดีค่ะ : 
 
หลังจากได้อ่านสปอยจากคนญี่ปุ่น แล้วฟังเรย์จิทั้งแทรคครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม

จนมากระทั่งนั่งฟังแล้วมารีวิว

เรายังคงสงสัยว่า

"นี่ตกลงมานเป็นพี่ชายของอายาโตะ คานาโตะ ไรโตะ กับ สุบารุจริงๆเหรอเนี่ย

นิสัยตรงกันข้ามกับสี่คนนี้จริงๆ"

สี่หนุ่มที่ว่านี้จะรุนแรงกับเราทั้งการกระทำและึำพูด

แต่เรย์จิแค่แรงกับเราแค่คำพูดเฉยๆ (บางทีก็ชอบล้อเล่นกับเรา)

นับได้ว่าเรย์จิเป็นแวมไพร์ที่มี ความฉลาดทางอารมณ์ สูงมากจริงๆ

ขนาดเราทำแก้วที่รักของเรย์จิแตก ยังไม่โวยวาย แถมยังทำแผลให้เราอีกแหนะ
 
อย่างตอนเหยียบเท้าเรย์จิ เรย์จิก็ไม่้โกรธซะงั้นอะ (แต่พูดเซะเมะใส่)
 
แถมตอนดูดเลือด ยังกัดเรายังกะแวมไพร์(ใน True Blood)แหนะ
 
กัดแล้วแต่ไม่เลีย ไม่สูบแรงๆซะด้วย - -*
 
ซูฮกค่ะะะะะะ จะเจนเทิลแมนไปไหน
 
 
 
แต่อย่าลืมนะคะท่านผู้ชม
 
นี่คือ ซีดีดูดเลือดแบบโค-ตะ-ระซาดิสม์ (ドS吸血CD)
 
เรย์จิคะ...นอกจากชั้นจะมองไม่เห็นความซาดิสม์ของเธอแล้ว
 
เธอยังทำให้ฉันมองว่าเธอเป็นแวมไพร์หัวใจเวอร์จิ้นอีกด้วยค่ะ !!



ต่อไปเราคงจะได้เห็นอนิเมะเรื่องนี้
 
"เรย์จิใส หัวใจเวอร์จิ้น!!"
 
/วิ่งหลบพระบาทาแฟนคลับเรย์จิโดยไว
 
(เอะ...เราก็เป็นสมาชิกแฟนคลับเรย์จิด้วยนี่นา...)



แต่ก็ไม่เชิงว่าเรย์จิจะไม่ซาดิสม์เลยนะ เรย์จิก็มีด้านซาดิสม์เหมือนกัน
 
อย่างตอนเอาโซ่มาล่ามขาเรา แล้วให้เราพยายามคลานหนีไปบนพื้น
 
รวมถึงตอนที่เทชาลงพื้นแล้วให้เราก้มๆเงยๆเช็ดพื้นอะ
 
พอจะจิ้นแววตาเรย์จิได้เลย (มองไรอยู่ฟระห๊ะะะ)


หลายคนสงสัยว่าทำไมเราถึงรีวิวแต่เรย์จิ.....ทั้งๆที่ตัวละครก็มีตั้ง 6 ตัว

จริงๆแล้วเรารีวิวเรย์จิเพราะว่า......

 
จริงๆแล้วก็หลงรักถึงขนาดเกลียดไม่ลงแล้วหละ ถึงแม้ซีดีจะทำให้ผิดหวังก็ตาม....
แต่ไม่เคยถือโทษโกรธเรย์จิ หรือโกรธนักพากย์ นะ ที่ต้องโกรธอะ ไอ่คนเขียนเรื่องต่างหาก...

จริงๆแล้วรีวิวคานาโตะไปแต่มันอยู่ในเฟซบุ๊คค่ะ....ขี้เกียจเอามาลง
 

แล้วเจอกันเอนทรี่หน้าค่าาาาาาาาา

Thursday, October 17, 2013

[Review Drama CD] Shinsengumi Mokuhiroku Wasurenagusa Vol.3 Kondou Isami Disc 2


แผ่นสองมาแล้วค่า....
ยังไม่ได้อ่านแผ่น 1 ก็กลับไปรีวิวแผ่น 1 สิ

คำเตือน
แผ่นสองนี้ เต็มไปด้วยสปอยล์
และ ฉาก(เสียง) 18+ ใน Track 1 + 2 (แต่ Track 3 + 4 ไม่ติดเรทนะคะ เรียกน้ำตาได้ดีเลยหละ)
กรุณาใช้จักรยาน เอ้ย วิจารณญาณในการอ่านรีวิวด้วยนะคะ

新撰組黙秘録勿忘草 第参巻 近藤勇編
Shinsengumi Mokuhiroku Wasurenagusa Vol.3 Kondou Isami
ชินเซนงุมิ บันทึกเป็นการลับ ~ฟอร์เกทมีนอท~  โวลุ่ม 3 คอนโด้ อิซามิ
CV. 井上和彦 Inoue Kazuhiko



Disc 2

Track 1
        คอนโด้ซังได้พบกับเราอีกครั้งในสวนของฐาน หลังจากที่เขาออกไปธุระข้างนอกเสียหลายวัน (ออกไปจัดการกับพวกโจชู) แล้วคอนโด้ซังก็พูดถึงโคเททซึว่าเขารู้ว่าโคเททซึพูดอะไรอยู่ เราก็นึกไปโน่นว่าโคเททซึพูดได้เหรอ เขาบอกว่าโคเททซึพูดไม่ได้หรอก แต่เขารู้สึกได้เพราะทุกครั้งที่เขาสู้ร่วมกับโคเททซึก็เหมือนกับใจทั้งสอง สื่อถึงกันได้ทุกครั้ง แล้วโคเททซึก็เป็นคาตะนะชิ้นเดียวที่เขาให้ความสำคัญที่สุด
        แล้วคอนโด้ซังก็ต้องเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะเขาพูดถึงโคเททซึเมื่อไหร่ก็ติดหล่มทุกที (เออรู้แล้วค่า – คนรีวิว) แล้วเขาก็ถามว่าทำไมเราถึงมาในสวนนี่ (เราก็ตอบว่า มากินข้าวมั้งคะ 5555+ //โดนเสย) เราตอบว่าจะมาเก็บดอกไม้ไปประดับห้องของคอนโด้ซัง คอนโด้ซังจึงชวนเราไปเก็บด้วยกัน....
        ระหว่างเก็บดอกไม้ คอนโด้ซังก็เลือกดอกไม้ที่เราไม่เคยเก็บไปประดับห้องเขาเลย และเขาก็ได้พบกับดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งเราบอกว่า มันชื่อ “วาซุเระนางุสะ” ซึ่งมันไม่น่าจะบานช่วงนี้ (ปกติดอกพวกนี้มันจะบานช่วงเข้าใบไม้ผลิอะนะเคอะ) เราก็จะเก็บวาซุเระนางุสะเหมือนกัน แต่คอนโด้ซังบอกว่า ไม่ได้ เพราะเขาเจอก่อน และเราก็สังเกตว่าเรากำลังจับมือของคอนโด้ซังที่กำลังจับดอกไม้อยู่ รู้ตัวอีกทีเราก็รีบปล่อยมือของคอนโด้ซัง....แต่แล้ว....
        ไม่ทันคาดคิด คอนโด้ซังก็เข้ามากอดเราจากข้างหลัง และ พูดว่า “ทั้งๆที่พูดไปแล้วแท้ๆ ข้าน่ะเป็นคนความอดทนน้อยนะ...” และจูบลงที่ริมฝีปากเราทันที พูดไปเรื่อยๆ ก็จูบไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าเขาอยากจะทำแบบนี้มาตลอด อยากจะประทับจูบกับเรา แทบอยากทำให้เราหายใจไม่ออกด้วยริมฝีปากของเขาเท่านั้น ตอนนี้เขาต้องการเราอย่างช่วยไม่ได้...
        และคอนโด้ซังก็สารภาพรักกับเรา และ บอกว่าถ้ามีใครมาเห็นเข้าก็คงจะถูกบังคับให้เซ็ปปุคุได้ง่ายๆ แต่เพราะเราทำให้เขาเกิดทนไม่ได้ขึ้นมา คอนโด้ซังจึงชวนเราไปที่ห้องของเขาตอนนี้เลย เราก็บอกว่า “นี่มันตอนกลางวันนะ” คอนโด้ซังเลยนัดเราให้เรามาที่ห้องในตอนกลางคืนแทน....

Track 2
        ในตอนกลางคืน เราก็ไปหาคอนโด้ซังตามสัญญา คอนโด้ซังก็บอกว่า โคเททซึก็ดีใจนะ (กึ่กกก เป็นตรูรีบวิ่งหนีออกจากห้องแน่นอน) เราก็ทำหน้าตื่นๆคอนโด้ซังก็บอกไม่ต้องกลัว อีกสักพักก็คงหายตื่นไปเอง... ก่อนที่เขาจะเรียกเราเข้าไปใกล้ๆ และเข้ามาจับตัวเราไว้จากข้างหลัง เขาก็กระซิบกับเราว่าเรานี่ยั่วยวนเก่งจริงๆนะ แล้วก็จูบที่ริมฝีปากเราอีก เราก็หลับตา แต่คอนโด้ซังบอกว่าให้เราลืมตาระหว่างที่จูบกับเขา เพราะเขาชอบสบตาและจูบแบบนี้มากกว่า และจูบอีกครั้ง
        และคอนโด้ซังก็พยายามถอดกิโมโนเราออก เราก็รีบถอยออกด้วยความอาย คอนโด้ซังก็บอกว่าไม่ต้องอาย เพราะ คนที่เห็นก็มีแต่เขาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะพูดว่า “มานี่สิ ข้าจะอ่อนโยนกับเจ้าเอง เจ้าน่ะก็แค่ ฝากตัวของเจ้าไว้กับข้าก็พอ ง่ายใช่มั้ยละ...”  และคอนโด้ซังก็เข้ามาจับเราจากข้างหลังอีก เขาบอกว่าเราเป็นคนเดินเข้ามาหาเขาเองนะ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องหนีหรอก เขาอยากจะรักกับเราให้ลึกซึ้งมากเท่าที่ทำได้
        คอนโด้ซังก็จูบเราไปเรื่อยๆ คอนโด้ก็ชมผิวของเราที่กลายเป็นสีแดงระเรื่อ ราวกับความสวยงามของโคเททซึที่อาบเลือดเลย (โอ้ยย มันสวยตรงหนายยย) จูบไปอีก และมีโคเททซึ ทำให้เขาสามารถเข้าถึงใจเราได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย (ไม่เลยค่ะ ไม่เลยยยย ฮือๆๆๆ เอามันออกปายยย) แต่เพราะว่าโคเททซึอาจจะแอบอิจฉาเราด้วย เขาเลยบอกว่าเขาน่ะรักโคเททซึเท่ากับเราเลย และ ให้เราสนิทสนมกับโคเททซึไว้ด้วย...
        และแล้ว คาตะนะเพลย์ก็เริ่มขึ้น คอนโด้ซังชักโคเททสึออกมาจากฝัก ชมว่าสวยราวกับว่าจะส่องสว่างในตัวเองได้งั้น เขาน่ะรักโคเททซึ เหมือนกับที่รักเราเลย แต่เราก็บอกว่า “บอกตามตรง ตรู เอ้ย ข้า ไม่ดีใจด้วยหรอก...” คอนโด้ซังก็อึ้งไป และก็บอกให้เราสัมผัสโคเททซึ เพราะเราได้รับสิทธิ์ให้สัมผัสโคเททซึได้ (หรือโดนโคเททซึสัมผัสกันแน่แว๊..)
        เมื่อใบมีดกระทบลงกับผิวเรา คอนโด้ซังก็จูบเราไปด้วย เราก็พยายามดิ้น คอนโด้ซังก็บอกว่ายิ่งขยับเดี๋ยวก็โดนบาดหรอก... และเขาก็บอกอีกว่าการที่ทำแบบนี้กับเราอยู่ในฝันเขามาตลอด ทำให้หัวใจของเขาเริ่มมีความคิดที่สกปรกขึ้นทุกวัน ระหว่างที่สันดาบกระทบผิวเราไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้คอนโด้ซังรู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปเรื่อยๆ เวลาที่ความเย็นของโคเททสึกับความร้อนในร่างกายเราทำปฏิกิริยากัน มันทำให้เขารู้สึกดีมาก เราก็สั่นด้วยความกลัว เขาก็บอกไม่ต้องกลัว เพราะเขาอย่างไรก็จะปกป้องสิ่งสำคัญของเขาอยู่แล้ว และ โคเททซึจะคอยปกป้องเรา เพราะฉะนั้น เราก็ต้องรักโคเททซึให้มากๆ
        เราก็ถามว่า ทำยังงัยถึงจะแสดงออกว่าให้ความรักกับมัน (ไม่สิ  ต้องเรียกเขา- -*) คอนโด้ซังก็บอกว่า ก็ให้ความอบอุ่นกับเขาก็ได้นี่ เขาก็ใช้สันดาบกระทบเราไปเรื่อยๆ จูบเราไปเรื่อยๆ บางทีก็หันไปจูบโคเททซึอีก จูบสับๆไปเรื่อยๆอีก โดยพยายามไม่ให้คมดาบบาดเราเข้า ก่อนที่จะลงท้ายแทรคว่าทั้งสองคน (เรา+โคเททซึ) จงเติบโตอย่างงดงามในอ้อมกอดของเขาเถอะ.... และหัวเราะจนจบแทรค...

Track 3
        แทรคเริ่มขึ้นด้วยเราตื่นขึ้นมาพร้อมกับที่เจอคอนโด้ซังตื่นอยู่แล้ว เขากำลังมองออกไปข้างนอก ในขณะที่อากาศเย็นมากเพราะลมพัด เราก็กลัวคอนโด้ซังจะไม่สบาย คอนโด้ซังเลยเข้ามากอดเราเพื่อให้เราทำให้เขาอุ่นขึ้น ระหว่างที่เขากอดเราอยู่ คอนโด้ซังก็เริ่มพูดขึ้นว่าเราอยู่ในฐานกลุ่มชินเซ็นมาได้กี่เดือนแล้วนะ เขารู้ว่าตอนนี้อนาคตของกลุ่มชินเซ็นก็เริ่มรุ่งโรจน์ขึ้น แต่จริงๆแล้ว ทุกอย่างมีเริ่มต้น ก็ต้องมีจบ ถ้าความวุ่นวายจบลง แล้วสันติภาพกลับมายังเมืองหลวงอีกครั้ง ตอนนั้นก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของสมัยแล้วก็ได้ (เอโดะ เปลี่ยนเป็น เมจิ เป็นต้นนะเคอะ..)
        และเมื่อวันนั้นมาถึง เราอาจจะได้ยิ้มรับกับมันก็ได้ คอนโด้ซังอยากจะได้กอดเราแบบนี้ และรอดูอนาคตที่สดใสไปด้วยกันแน่นอน แต่แล้ว...เรื่องแบบนั้นมันต้องเป็นแค่”เรื่องในฝัน”แน่นอน (พร้อมกับเอฟเฟคลมที่แม้แต่คนฟังยังต้องขนลุก) แล้วคอนโด้ซังก็หันไปชมหน้าหนาวที่กำลังใกล้เข้ามา ดวงดาวก็ดูสวยงาม เวลาที่ได้รู้สึกแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกต้องเตรียมใจกับอะไรบางอย่าง
        เราก็ถามว่าต้องเตรียมอะไร ? เขาจึงบอกว่า “มันคือการเตรียมใจรอรับจุดจบ ยังงัยละ” (ถึงตอนนี้เริ่มเศร้าแล้วแหะ...) สิ่งนั้นก็คือ การตัดสินใจเลือกสถานที่ ที่เขาจะใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และที่นั่นก็คือ “คุนอนนิบุคุย” (คืออะไรหว่า ใครรู้หลังไมค์มาหน่อย - -*) และเขาเริ่มรู้สึกว่าวันนั้นใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว แต่ไม่ใช่ตอนนี้  และจนกว่าวันนั้นจะมาถึง เขาพร้อมกับเราและโคเททซึ จะอยู่ด้วยกัน และเขาก็สาบาน จะรักเราต่อไปจนกว่าจะถึงเวลานั้นด้วย....

Track 4 Free Talk by Inoue Kazuhiko
        แทรคนี้เป็นแทรคฟรีทอล์คของอิโนะอุเอะซัง(อิโนะซัง)เซย์ ยูผู้พากย์เสียงคอนโด้ อิซามิค่ะ โดยอิโนะซังได้บอกว่านานแล้วที่เขาไม่ได้พากย์อะไรนานๆแบบนี้ แต่ก็พากย์จนจบได้ และเขาก็หวังว่าทุกคนที่ได้ฟังคงจะสนุกกับโวลุ่มนี้ (เอ่อค่ะ สนุกมากค่ะ แหวกแนว 555)
        แล้วก็คำถามต่อไปที่ทีมงานจัดมาให้คือ “อิโนะซังมีส่วนที่เหมือนกับคอนโด้ซังไหม ?” อิโนะซังก็บอกว่า ไม่ค่อยเหมือนกัน เพราะคอนโด้ซังดูเท่ห์มาก เขาจึงไม่กล้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคอนโด้ซังสักเท่าไหร่ แล้วก็คำถามต่อไปคือ “ในกลุ่มชินเซ็นชอบใครเป็นพิเศษหรือเปล่า ?” อิโนะซังก็บอกว่าเขาชอบ ฮิจิคาตะซัง กับ โอคิตะซัง เหตุผลเดียวกับคอนโด้ซัง และดูสามคนนี้จะสนิทสนมกันเป็นพิเศษด้วย
        ต่อไปก็เป็นการพูดถึงการใช้ดัมมี่เฮดไมค์อัดเสียง อิโนะซังก็บอกว่าเขาต้องมีการเคลื่อนที่ตัวเองตลอดเวลา บางทีเขาก็ต้องมีการจิ้นไปด้วยละนะ สุดท้ายก็เป็นฝากส่งท้ายให้กับคนฟัง เขาบอกว่าดราม่าซีดีนี้เป็นซีดีที่เนื้อหาค่อนข้างหนักถึงขนาดต้องใช้ชีวิต เป็นเดิมพันกันเลยเหมือนกัน แต่เขาก็มีความสุขที่ได้พากย์ และ เพราะเขาใส่ใจเข้าไปในการพากย์ด้วย หวังว่าคงได้รับความชอบจากคนฟังทุกคน ก่อนที่จะกล่าวปิดไปด้วยการขอบคุณ และแทรคที่จบลง..

My comments:
        เดาไว้ตั้งแต่แรกเลยว่า ดูอ่อนโยนแบบนี้ไม่น่าจะเอโร่ยได้ ปรากฏว่าเสียงจุ๊บๆ ระดับเจ้าพ่ออย่างอิโนะซังก็ทำคนฟังเกือบๆใจแป้วเหมือนกันนะ โดยเฉพาะฉาก 逢瀬 ท่านจะอะไรกับดาบของท่านนักหนาเนี่ย แล้วคำว่า "ดาบเล่มนี้จะปกป้องเธอ เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องรักมันให้มากๆ..." ก็เข้าใจอะคะคอนโด้ซังขาาา แต่ว่าไอ่เสียงสันดาบกระทบเนื้อนี่ยังงัยก็กลัวแหะ....แบบว่ายอมรับเลยว่า คอนโด้ซังมีด้านที่ใครๆก็มองไม่เห็นอยู่เยอะมาก.... แต่มันก็ดีนะ เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้จักคอนโด้ซังมากขึ้นในมุมมองที่อนิเมะหรือพวก ภาพยนตร์อะไรงี้ไม่ค่อยเอาออกมานำเสนอสักเท่าไหร่....
        ตอนจบของโวลุ่มนี้ก็ค่อนข้างเศร้าสำหรับคนที่เคยอ่านประวัติคอนโด้ซังมา บ้าง.... ถ้าไม่เคยอ่านแล้วจะเฉยๆมาก เพราะฉะนั้นแนะนำว่าถ้าใครอยากอินก็ไปอ่านประวัติคอนโด้ซังซะก่อนแล้วค่อยมา ฟังนะคะ

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ จบรีวิวแล้วค่า !!!!!!!!!!!!!
ถ้าใครอ่านแล้วงงๆ ถามหลังไมค์ได้หรือคุยกะเราในเฟซได้นะคะ
(เม้นในบล็อกนี้ก็ได้นะเคอะ...จะได้รู้ว่าอ่านแล้ว)

ขอบคุณคนที่ตามรีวิวมาจนถึงบัดนี้ค่ะ เราสัญญาจะเอาดราม่าซีดีน่าฟังมาริวิวให้อ่านกันอีกแน่ๆ //ทำหน้ามั่นใจมาก